ราคาหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 7% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันจันทร์ (14 ส.ค.) และปรับตัวขึ้นอีกเกือบ 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการแสดงความเห็นเชิงบวกของมอร์แกน สแตนลีย์
มอร์แกน สแตนลีย์ระบุในคำแนะนำถึงลูกค้าในวันจันทร์ว่า อินวิเดียยังคงเป็นหุ้น “Top Pick” หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งและเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการที่ดีกว่าคาด
“เรามองว่ากระแสการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะเข้ามาช้อนซื้อ โดยเฉพาะหุ้นอินวิเดีย เราคาดว่าผลประกอบการของอินวิเดียในช่วง 3-4 ไตรมาสข้างหน้าจะยังคงแข็งแกร่ง อินวิเดียยังคงเป็นหุ้น ‘Top Pick’ ของเรา เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทจำนวนมากหันมาเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) เราคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้อุปทานชิป AI ตึงตัวต่อไปอีกหลายไตรมาสข้างหน้า” มอร์แกน สแตนลีย์ระบุ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ขณะนี้มูลค่าตลาดของอินวิเดียสูงกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ในปีนี้ และนับตั้งแต่ต้นปี 2566 ราคาหุ้นอินวิเดียพุ่งขึ้นเกือบ 200%
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาหุ้นอินวิเดียเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 1% ในวันจันทร์ และยังช่วยหนุนหุ้นบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา อินวิเดียเปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567 อยู่ที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.92 ดอลลาร์ ส่วนรายได้อยู่ที่ 7.19 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.52 พันล้านดอลลาร์
อินวิเดียจะเปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 ในวันที่ 23 ส.ค.นี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 66)
Tags: Nvidia, ชิป, ราคาหุ้น, สหรัฐ, อินวิเดีย