สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในขณะที่ตลาดส่วนใหญ่มองข้ามความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ เกี่ยวกับการจำกัดการลงทุนในเทคโนโลยีบางประเภทในจีน เหล่านักลงทุนของสหรัฐต่างแสดงความกังวลว่า จีนจะดำเนินการตอบโต้หรือถอนตัวจากการซื้อเทคโนโลยีจากสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารเพื่อประกาศมาตรการสกัดกั้นการลงทุนใหม่ของสหรัฐในเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนในจีน ซึ่งรวมถึงชิปคอมพิวเตอร์ พร้อมกำกับดูแลในภาคส่วนอื่น ๆ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ และสกัดกั้นไม่ให้เงินทุนและความเชี่ยวชาญของสหรัฐไปเสริมสร้างความทันสมัยด้านการทหารของจีน
อย่างไรก็ตาม เหล่านักลงทุนในสหรัฐต่างไม่สะทกสะท้านกับข่าวข้างต้น โดยระบุว่า ข้อจำกัดเบื้องต้นเป็นไปในวงจำกัดมากกว่าที่คิดไว้ และไม่มีแนวโน้มที่จะขยายการลงทุนระยะยาวในหุ้นของจีน แต่ผู้จัดการพอร์ตลงทุนหลายคนระบุว่า เรื่องที่น่ากังวลกว่าคือ จีนจะตอบโต้กลับเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่
นายริค เม็คเลอร์ หุ้นส่วนของบริษัทเชอรีเลน อินเวสต์เมนต์ของรัฐนิวเจอร์ซี ระบุว่า “ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับว่าจีนจะตอบสนองอย่างไรต่อมาตรการดังกล่าว สงครามเทคโนโลยีระหว่างทั้งสองประเทศคือปัจจัยลบอย่างมาก และฝ่ายบริหารสหรัฐก็ดูเหมือนจะพยายามประกาศมาตรการดังกล่าวออกไปโดยพยายามไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมในจีนมากนัก”
กองทุนรวม iShares MSCI China Exchange Traded Fund ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุน ETF บริษัทจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐที่ใหญ่ที่สุด ปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อพฤหัสบดี (10 ส.ค.) ในขณะที่กองทุนอื่น ๆ ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทแทบจะไม่ขยับ
กระทรวงพาณิชย์จีนตอบสนองต่อคำสั่งพิเศษของปธน.ไบเดน โดยระบุว่า “จีนมีความกังวลเป็นอย่างยิ่ง และขอรักษาสิทธิในการออกมาตรการตอบโต้” อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จีนบางคนระบุว่า ทางเลือกของจีนมีจำกัด และไม่น่าจะทำให้สถานการณ์ดังกล่าวบานปลาย แม้บางคนจะบอกว่านั่นเป็นการมองแง่ดีมากเกินไปก็ตาม
ทั้งนี้ ในเดือนพ.ค. จีนพุ่งเป้าไปที่บริษัทไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตชิปของสหรัฐ หลังจากที่สหรัฐออกมาตรการควบคุมการส่งออกส่วนประกอบและเครื่องมือสำหรับผู้ผลิตชิปของสหรัฐไปยังจีน พร้อมกล่าวหาว่า จีนลงโทษบริษัทอื่น ๆ ของสหรัฐ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ
นายทอม พลัมบ์ ซีอีโอของกองทุนรวมพลัมบ์ ฟันด์ (Plumb Funds) กล่าวว่า “การหวังว่าจะไม่ได้รับการตอบโต้ใด ๆ จากจีนเลยเป็นความคิดที่โลกสวยเกินไป”
และกล่าวเสริมว่า จีนอาจจำกัดการส่งออกแร่หายากที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่น ๆ หรือเพ่งเล็งมายังบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ของสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 66)
Tags: จีน, จีนสหรัฐ, สงครามเทคโนโลยี, สหรัฐ