ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 93,651 ล้านบาท

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 93,651 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 51,632 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,068 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 2,344 ล้านบาท  Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.42%   ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%

ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-2 bps. ในตราสารระยะยาว สำหรับกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 2,354 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 2,354 ล้านบาท และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ด้านปัจจัยต่างประเทศ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์กแสดงความคิดเห็นว่า ควรคุมเข้มนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไปอีกสักระยะ แต่จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนอุปทานและอุปสงค์ในเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ขณะที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐฯ 10 แห่งลง 1 ขั้น เนื่องจากผลประกอบการของธนาคารหลายแห่งในไตรมาส 2 แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่มีต่อความสามารถในการทำกำไร เป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอยเล็กน้อย และความเสี่ยงที่เกิดจากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งการบริหารทรัพย์สินและหนี้สิน ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 3,348 ล้านบาท

สรุปภาวะการซื้อขายตราสารหนี้

ตลาดตราสารหนี้ไทย08-08-2023Change%Change
 มูลค่าการซื้อขาย93,650.74 ลบ.
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 3 เดือน2.00 %เพิ่มขึ้น0.01 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 1 ปี2.19 %0.00 %
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 ปี2.42 %ลดลง0.01 %

มูลค่าการซื้อขายแบบ Outright (แยกตามประเภทตราสาร)

ประเภทตราสารล้านบาทChange%Change
ตั๋วเงินคลัง607.98เพิ่มขึ้น58 %
พันธบัตรรัฐบาล17,530.20เพิ่มขึ้น65 %
ตั๋วสัญญาใช้เงินรัฐบาล0.00n/a
พันธบัตร ธปท.72,313.66เพิ่มขึ้น308 %
พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ9.31n/a
หุ้นกู้เอกชน1,936.78เพิ่มขึ้น14 %
พันธบัตรต่างประเทศ0.00n/a

หมายเหตุ: n/a คือ หาค่าไม่ได้ เนื่องจากไม่มีมูลค่าการซื้อขายในวันก่อนหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top