สว.เสรี ขอรอดูท่าทีจัดตั้งรบ.ย้ำยึดเสถียรภาพ เตรียมสอบคุณสมบัติ “เศรษฐา” ก่อนโหวต

นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า วุฒิสภาต้องรอให้แต่ละพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาลรวมตัวกันให้เสร็จก่อน เพราะต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพต้องได้เสียงเกินกว่า 250 คนขึ้นไป

ขณะนี้ได้ 200 กว่าแล้ว ต้องดูว่าจะมีพรรคใดบ้างมารวมตัวกัน เพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องตกลงกันว่าจะนำชื่อใครที่อยู่ในบัญชีแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี แม้พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกฯ แต่ระยะเวลายังมีอยู่ ต้องรอดูต่อไปว่าสุดท้ายการเสนอชื่อในสภาฯ จะเป็นชื่อใด

นายเสรี กล่าวว่า พรรคการเมืองต้องไปตกลงกันให้ได้ว่าพรรคใดจะมาร่วม แต่การที่จะมี 2 ลุงอยู่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคต้องตกลงกันเอง ในส่วนของ สว. คงต้องรอว่าจะสำเร็จมากน้อยเพียงใด หากตอบตอนนี้จะกลายเป็นว่าเราไปสนับสนุนพรรคนั้น พรรคนี้อาจจะไม่เหมาะสม

หากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าร่วมรัฐบาลจะมีผลต่อการรวมคะแนนเสียงของ สว. หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า คิดว่าทุกพรรคที่เสนอชื่อมา สว. ต้องพิจารณาทั้งหมด คงไม่เลือกพรรคในการพิจารณา แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญในแต่ละพรรคที่ต้องตกลงกันเอง

นายเสรี กล่าวว่า ต้องดูให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความเข้มแข็ง แต่ละพรรคที่มาร่วมต้องไม่สร้างปัญหาในทางการเมือง หรือไม่สร้างปัญหาให้กับประเทศชาติด้วย

 

*แนะตรวจสอบคุณสมบัติ “เศรษฐา” ก่อนโหวต

 

นายเสรี กล่าวถึงแคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย ตอนนี้เป็นนายเศรษฐา สว. จะให้ความเห็นชอบหรือไม่ว่า อยู่ในเกณฑ์พิจารณามากกว่า เพราะการเสนอชื่อมาแล้วต้องอยู่ในมาตรฐานที่เคยตัดสินใจไปแล้ว ดังนี้

1. ต้องไม่แตะมาตรา 112 หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวดมาตราพระมหากษัตริย์ ถือเป็นหลักสำคัญในการพิจารณาครั้งก่อน

2. ดูคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของคนที่ได้รับการเสนอชื่อมีการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

3. ดูนโยบายของแต่ละพรรคเพื่อนำมาประกอบในการตัดสินใจ ถือว่ามีส่วนสำคัญ เพราะมีผลกระทบกับประชาชน

นายเสรี กล่าวต่อว่า ตอนนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พชปร.) มายื่นตรวจสอบคุณสมบัติของนายเศรษฐา ในกรณีเลี่ยงภาษีที่ดินหรือไม่ ซึ่งตนในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนจะพิจารณารายละเอียดในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะดูในเรื่องที่ร้องเรียนมา เพราะยังไม่ทราบว่ายื่นเรื่องใดบ้าง เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการหรือไม่ ถ้าเกี่ยวข้องก็พิจารณา ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็ส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อ

สำหรับการตรวจสอบควรดำเนินการให้เสร็จก่อนการโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป เพราะเป็นเหตุผลสำคัญของคนที่จะมาบริหารประเทศ อย่างไรก็ตาม ต้องวางแนวทางว่าต้องไม่อคติและต้องดูตามเหตุผลไป และเห็นว่านายเศรษฐา มาแสดงวิสัยทัศน์ด้วยตัวเอง

ส่วนกรณีที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ออกมาระบุ นายกฯ คนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย ทำให้หลายคนมองว่าเป็นธงของ สว. ในการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า คงเป็นดุลยพินิจของบุคคล คงฟันธงตอนนี้ไม่ได้ เพราะในที่สุดยังไม่รู้เลยว่าพอถึงเวลาจริงการเสนอชื่อในสภาต้องใช้เสียง 1 ใน 10 ซึ่งจะเป็นใครนั้นต้องรอ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top