นายวิรัตน์ ผูกไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) เปิดเผยว่าบริษัทปรับเป้ารายได้ปี 66 จากเดิม 4,000 ล้านบาท ลดลงเหลือ 3,300 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่ยังเชื่อว่ายอดขายจะเติบโตบนตัวเลข 2 หลัก หนุนโดยธุรกิจ Optics อุปกรณ์การสื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนำแสง ซึ่งมีมาร์จิ้นสูงและมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี
รวมทั้งในไตรมาส 3/66 คาดยอดขายจะปรับเพิ่มขึ้นจากผลของฤดูกาลและยอดขายจากสินค้าใหม่ เช่น EV Charger Controller และสินค้ากลุ่ม Audio Backplate รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คาดกำไรในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 750-900 ล้านบาท คาดไตรมาส 4/66 ลูกค้าจะกลับมาในระดับหนึ่งส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตได้ตามเป้า
ขณะที่เป้าหมายระยะ 3-5 ปี บริษัทหวังว่ายอดขายแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท หนุนจากฐานลูกค้าและศักยภาพทางด้านการผลิตของบริษัท เชื่อปีหน้ายอดขายแตะที่ระดับ 4-5 พันล้านบาท หนุนจากออเดอร์สินค้าที่เกี่ยวข้องกับ EV โดยปีนี้คาดรับรู้รายได้มากกว่า 300 ล้านบาท และในปีหน้าจะรับรู้รายได้มากกว่า 50% ของยอดขาย
รวมทั้งมีแผนขยายไปยังสินค้า Medical ซึ่งอยู่ในระหว่างพัฒนาสินค้าร่วมกับลูกค้าในยุโรปถือเป็นสิ้นค้ากลุ่มที่ 4 ของบริษัท ซึ่งเดิมประกอบด้วยสินค้าการประกอบและทดสอบแผงวงจรไฟฟ้ารวม (OSAT) สินค้าผลิตและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA and Boxbuild) และสินค้าอุปกรณ์สำหรับการสื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนำแสง (Optical)
ทั้งนี้ไตรมาส 2/66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 84.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.74% เมื่อเทียบกับ Q2/65 ที่มีกำไรสุทธิ 71.37 ล้านบาท มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 706.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.34% โดยรายได้จากกลุ่มสินค้าอุปกรณ์สำหรับการสื่อสารผ่านเส้นใยแก้วนำแสง (Optical) เพิ่มขึ้น 69.98% เป็นผลจากกลุ่มสินค้าดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นในตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ผลิตสินค้าประเภทนี้มีค่อนข้างน้อยในตลาด เนื่องจากต้องใช้ทักษะและความรู้ความสามารถที่เฉพาะเจาะจงและเงินลงทุนในจำนวนที่สูง
“ผลประกอบการออกมาสะท้อนแผนธุรกิจ และกลยุทธ์การหาลูกค้าที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ เป็นกำไรจากการดำเนินงานล้วนๆ โดยไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 157.68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.32% จากรายได้จากการขายและบริการ โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 2.93% เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น การดำเนินกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นการผลิตสินค้าที่ต้องใช้ความแม่นยำที่มีคุณภาพและความเชี่ยวชาญในการผลิตที่ให้กำไรสูงขึ้น ควบคู่กับกลยุทธ์การลดต้นทุนวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ และคัดเลือกลูกค้าและสินค้าที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง” นายวิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงพอร์ตโฟลิโอ โดยหาลูกค้าใหม่ๆซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม High-end ทำให้ความต้องการสินค้าค่อนข้างมั่นคง รวมทั้งขยายฐานลูกค้าไปยังหลากหลายพื้นที่ เช่น ออสเตรเลีย รวมทั้งมีแผนผลิตและจำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อลดการพึ่งพิงสินค้าประเภทใดประเภทหนึ่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ส.ค. 66)
Tags: SMT, วิรัตน์ ผูกไทย, สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์