“จุรินทร์” โยนมติพรรคเคาะร่วมรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ แต่ย้ำอุดมการณ์ต้องไม่เสีย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวลือ ปชป. จะไปร่วมรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการพิจารณาในพรรคฯ เพราะการที่จะไปตั้งรัฐบาลกับพรรคใด สมัยใดก็ตาม มีข้อบังคับซึ่งจะต้องผ่านมติที่ประชุมร่วม สส. กับกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคฯ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการประชุมกัน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการทาบทามมาหรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ไม่ทราบ แต่พรรคฯ ยังไม่เคยมอบหมายใครไปเจรจาเรื่องการตั้งรัฐบาล

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีบางส่วนในพรรรคอยากเข้าร่วมรัฐบาลแต่บางส่วนไม่อยากเข้าร่วม เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินว่าจะเกิดเหตุนี้ขึ้น แต่ขอให้เป็นมติจากที่ประชุมร่วมซึ่งยังไม่ได้มีการประชุมกัน และพรรคฯ จะมีการประชุมเลือก กก.บห. พรรคชุดใหม่ ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ แต่ขณะที่ยังไม่มี กก.บห.พรรคชุดใหม่ กก.บห.ชุดปัจจุบันก็ต้องรักษาการทำหน้าที่ไปก่อน

“ยังไม่ได้แปลว่าขณะนี้จะไปร่วมหรือไม่ร่วม ขอให้เป็นมติที่ประชุมพรรคฯ ไม่ขอให้ความเห็นตรงนี้ไปก่อน แต่เรียนว่าพรรคฯ ก็มีอุดมการณ์ของพรรคฯ และก็เชื่อว่าผู้แทนราษฎรทุกคนของพรรคฯ ก็มีศักดิ์ศรีในการที่จะดำเนินการอะไรในทางการเมือง และทั้งหมดก็จะต้องเป็นความเห็นร่วมกันของพรรคฯ ด้วย จึงจะดำเนินการทางการเมืองใดๆ ได้ เช่นที่เราปฏิบัติมาในทุกครั้งที่มีการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะอยู่ในฐานะที่จะไปเป็นรัฐบาล เป็นแกนตั้งรัฐบาล เป็นพรรคร่วม หรือเป็นฝ่ายค้านก็ตาม” นายจุรินทร์ กล่าว

ในส่วนของปัจจัยในการตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ขอให้ความเห็นคนเดียว แต่คิดว่าหัวใจสำคัญคือเรื่องมาตรา 112 นอกจากนี้ คือเรื่องหลักการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ประชุมจะต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบต่อไปถ้าจะมีการพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง

เมื่อสอบถามความเห็นที่มีต่อคุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน นั้น นายจุรินทร์ กล่าว่า ท่านก็เป็นนักธุรกิจนะ ส่วนรายละเอียดจะเป็นแบบไหน ไม่สามารถตอบแทนเขาได้ ถ้ามีการเสนอชื่อแล้วมีผู้สอบถาม ก็ต้องไปฟังว่าเป็นอย่างไร

ส่วนจะมีการให้นายเศรษฐา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ต้องถามประธานสภาฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร แล้วจะมีการเสนอชื่อนายเศรษฐาจริงหรือไม่ เพราะก็ยังมีเวลาจนถึงวันพรุ่งนี้

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top