จีนเล็งออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการบริโภค หวังพลิกฟื้นศก.หลังยุคโควิด

ทางการจีนเปิดเผยว่า จีนเตรียมประกาศมาตรการใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากโรคโควิด-19 แพร่ระบาด

สำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน (State Council Information Office) ระบุว่า นายหลี่ ชุนหลิน รองประธานคณะกรรมการเพื่อปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติจีน (NDRC) และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ, กระทรวงพาณิชย์ และ สำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐจะจัดงานแถลงข่าวในเวลา 15:00 น. ในวันนี้ (31 ก.ค.) ที่กรุงปักกิ่ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างอ่อนแอลงในไตรมาส 2/2566 เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงอีกครั้งหลังจากที่ได้ฟื้นตัวในช่วงต้นปี นอกจากนี้ การส่งออกของจีนลดลงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด

เมื่อต้นเดือนนี้ NDRC ระบุว่า จีนจะเร่งนำเสนอนโยบายเพื่อกระตุ้นการบริโภค และจะมีการนำมาตรการใหม่ ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มยอดขายรถยนต์, ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และการบริโภคในพื้นที่ชนบท

ด้านนายจิน เสียนตง โฆษกของ NDRC ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า นโยบายเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาการว่างงานในกลุ่มเยาวชนและเพิ่มค่าแรงให้กับคนงานที่มีรายได้น้อยเพื่อสร้างความมั่นใจว่ารายได้ของพลเมืองจีนจะเติบโตอย่างสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ของจีนขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้ว่าขยายตัวรวดเร็วขึ้นจากระดับ 4.5% ในไตรมาส 1 แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 7.3% ส่วนอัตราว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวซึ่งมีอายุระหว่าง 16-24 ปี อยู่ที่ระดับ 21.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ตลาดการเงินจับตาความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ หลังจากหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนรายงานว่า รัฐบาลจีนอาจจะออกมาตรการเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นทางธุรกิจทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐ รวมทั้งในหมู่บริษัทต่างชาติ หลังจากที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้ประชุมร่วมกับบรรดาผู้บริหารของบริษัทเอกชนเมื่อไม่นานมานี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top