หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพรับราคาน้ำมันพุ่ง-จีนส่งสัญญาณหนุนเทคฯ

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพตามตลาดภูมิภาค ราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงดันหุ้นพลังงาน และนักลงทุนเชื่อวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของสหรัฐถึงจุดพีคแล้วหลังตัวเลขเงินเฟ้อชะลอต่อเนื่อง รวมถึงจีนหนุนธุรกิจเทคโนโลยี ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งทั่วโลกส่งสัญญาณวงจรชิปผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เป็นแรงผลักดันหุ้นชิ้นส่วนและเทคโนโลยี วันนี้ให้แนวรับ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,558-1,567 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพสอดคล้องตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ราคาน้ำมันทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่กลางเดือน เม.ย.ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่รงคาดหนุนกลุ่มพลังงาน และตลาดฯเชื่อว่าวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นสหรัฐถึงจุดพีคแล้วหลังตัวเลขยอดค้าปลีก, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ออกมาต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้ จีนยังส่งซิกสนับสนุนธุรกิจเทคโนโลยีในระยะ 2 ปีนี้ และบริษัทเทคโนโลยีโลกหลายแห่งส่งสัญญาณว่าวงจรชิปผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เป็นผลดีต่อหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี ขณะที่การเมืองในประเทศยังอยู่ระหว่างรอพัฒนาการในการจัดตั้งรัฐบาล

ให้แนวรับไว้ที่ 1,520 จุด และแนวต้าน 1,558-1,567 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (28 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,459.29 จุด เพิ่มขึ้น 176.57 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,582.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด หรือ +0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,316.66 จุด เพิ่มขึ้น 266.55 จุด หรือ +1.90%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,237.53 จุด เพิ่มขึ้น 320.97 จุด หรือ +1.61% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,287.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.28 จุด หรือ +0.34% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,128.83 จุด เพิ่มขึ้น 369.60 จุด หรือ +1.13%
  • ตลาดหุ้นไทยปิด(27 ก.ค.66) 1,543.27 จุด เพิ่มขึ้น 18.68 จุด (+1.23%) มูลค่าซื้อขาย 62,628.67 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,530.31 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.66
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.(28 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 80.58 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 4.6% ในรอบสัปดาห์นี้
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ก.ค.) อยู่ที่ 10.19 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.22 อ่อนค่า ให้กรอบวันนี้ 34.10-34.40 จับตาตัวเลขศก.-การเมืองในปท.
  • จับตาเพื่อไทยนัดถก 8 พรรค คาด 1 หรือ 2 ส.ค.นี้ “ประเสริฐ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยันต้องจบภายใน 3 ส.ค.ก่อนวันประชุมรัฐสภาวาระ “โหวตนายกฯ-แก้รธน.” ด้าน “วิสุทธิ์” มั่นใจดัน “เศรษฐา” ผ่านฉลุย ขณะที่ “ประวิตร” ปัดตั้ง “พัชรวาท” รับดีลลับข้ามขั้ว “ธรรมนัส” แบไต๋พร้อมจับมือเพื่อไทย
  • 100 ซีอีโอจี้เร่งตั้งรัฐบาล 89% ระบุ รัฐบาลใหม่ต้องรีบแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้ครัวเรือนโดยด่วน ระบุการเมืองยืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจมากถึงมากที่สุด หวั่นฉุดเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ไร้ความต่อเนื่องนโยบายขับเคลื่อนประเทศ ยก “เพื่อไทย” แกนนำตั้งรัฐบาล “เศรษฐา” นั่งนายกฯ ซีอีโอ เกินครึ่ง “ค้าน” ดึงคนนอกนั่งนายกฯ
  • รองผู้ว่าฯ กทม.แนะทางออก “แอชตัน อโศก” หาทางเข้าออก 12 เมตรให้ได้แล้วขอใบอนุญาตใหม่ ชี้ไม่ต้องทุบทิ้ง ผู้ว่าฯ ตั้งโต๊ะแถลง 3 ส.ค.นี้ “อนันดาฯ” รับมีทางเลือกซื้อตึกแถวหลัง คอนโดฯเปิดทางเข้าออก คาดราคาพุ่ง 250-300 ล้าน/คูหา

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 169 บาท ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง ส่งผลบวกโดยตรงต่อ PTTEP ในฐานะ Oil link Company
  • TOA (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 40 บาท คาดกำไรสุทธิ Q2/66 ที่ 735 ล้านบาท +16% q-q, +100% y-y หากตัด FX ออก กำไรปกติคาด 687 ล้านบาท +6% q-q, +45% y-y ทำ Record High ดูดีกว่าที่เคยคาดจาก Gross Margin ที่คาดแข็งแกร่งเป็น 34.5% จาก 32.9% ในไตรมาส 1/66 จากการใช้ TiO2 จากจีนสูงขึ้น หากกำไรไตรมาส 2/66 ออกมาตามคาดจะทำให้กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 63% ของประมาณการทั้งปีที่ 2.2 พันล้านบาท +33% y-y มี Upside และมีแนวโน้มปรับประมาณการขึ้น
  • EGCO (แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 217 บาท คาดกำไร Q2/66 อ่อนแอจากโครงการ Hydro ที่ลาวและโครงการสหรัฐฯ และด้วยโครงสร้างโรงไฟฟ้าหลากหลาย ทำให้กำไรไม่เด่นเท่าหุ้นโรงไฟฟ้าอื่น แต่คาดจะดีขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้า จากความคืบหน้าโครงการขนาดใหญ่ในไต้หวันและสหรัฐฯ มองว่ากำไรอ่อนแอจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินปันผล เนื่องจากมีเงินปันผลรับจาก 3 โครงการขนาดใหญ่ที่ขายไฟฟ้าให้ กฟผ.ซึ่งมั่นคงสูงมาก อัตราเงินปันผลสูงจะช่วยจำกัดการปรับลงของราคาหุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 ก.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top