ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (25 ก.ค.) หลังรัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะปรับนโยบายเพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,258.66 เพิ่มขึ้น 590.51 จุด หรือ +3.16% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,223.89 จุด เพิ่มขึ้น 59.73 จุด หรือ +1.89% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,605.97 จุด ลดลง 94.97 จุด หรือ -0.29%
รัฐบาลจีนประกาศว่าจะผลักดันประเด็นการจ้างงานที่มั่นคงเป็นเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ควบคู่ไปกับการประกาศกระตุ้นการบริโภคและต่อสู้กับความเสี่ยงด้านหนี้สิน หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนนำไปสู่กระแสเรียกร้องให้รัฐบาลจีนออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการขยายตัวที่รวดเร็วกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 0.3% แม้ว่าการส่งออกปรับตัวลงก็ตาม
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 2 ขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และเป็นการขยายตัวรายไตรมาสที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2565
เมื่อเทียบเป็นรายปี ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับในไตรมาส 1
ดัชนีหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 11 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560
ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น 0.52% ส่วนดัชนี S&P500 บวก 0.40% และดัชนี Nasdaq Composite ขยับขึ้น 0.19%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย