กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุบนเว็บไซต์ว่า ยุโรปควรเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยการรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเสียหายมากขึ้นในภายหลัง
ทั้งนี้ IMF ระบุว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ควรสกัดคาดการณ์เงินเฟ้อไม่ให้หลุดจากการควบคุมและพุ่งสูงขึ้น ผ่านการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง โดยการคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมในระยะใกล้จะช่วยป้องกันให้ไม่ต้องใช้มาตรการที่มีผลข้างเคียงมากกว่าเดิมในภายหลัง เพื่อฉุดเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย
ในแผนภูมิชาร์ต ออฟ เดอะ วีก (Chart of the Week) ของ IMF แสดงให้เห็นว่า ECB ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งหมด 8 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 4% นับตั้งแต่เริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินในช่วงกลางปี 2565 โดยการดำเนินการขั้นเด็ดขาดนี้ได้ช่วยเหนี่ยวรั้งคาดการณ์เงินเฟ้อระยะไกลมาได้จนถึงขณะนี้
รายงานระบุว่า หาก ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมและปรับให้สูงเหนือระดับ 3.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่ตลาดคาดการณ์ในปัจจุบัน โดยพิจารณาตามข้อมูลเศรษฐกิจ ก็จะช่วยยับยั้งไม่ให้เงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวในระดับสูงแบบหยั่งรากลึก โดยในความเป็นจริงแล้ว เงินเฟ้ออาจจะกลับคืนสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับลงในอัตราที่เร็วขึ้น
แม้ภาวะตื่นตระหนกต่อราคาพลังงานและอาหารที่ผลักดันให้เงินเฟ้อพุ่งทะลุเป้าหมายเริ่มลดน้อยลง แต่เงินเฟ้อก็ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเงินเฟ้อในยูโรโซนปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนมิ.ย. เทียบกับปีก่อนหน้า ขณะเดียวกัน เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสำคัญที่น่าเชื่อถือมากกว่า ปรับตัวขึ้น 5.4% และเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนเม.ย.–มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งยังคงสูงเหนือเป้าหมายของ ECB
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66)
Tags: IMF, กองทุนการเงินระหว่างประเทศ, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, เงินเฟ้อ