บมจ.ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 2.70 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อวันที่ 25-27 กรกฎาคม 2566 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี (TECH)
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ไอร่า และ บล.ลิเบอเรเตอร์
การกำหนดราคา IPO ทำโดยการประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ด้วยวิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขาย คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิเท่ากับ 20.11 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 56.40 ล้านบาท และคำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังเสนอขาย IPO จำนวน 420 ล้านหุ้น (Fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นประมาณ 0.13 บาทต่อหุ้น
“การกำหนดราคาไอพีโอที่ระดับ 2.70 บาท/หุ้นถือเป็นราคาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่ง I2 ถือเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการ SI ครบวงจร ภายใต้ทีมบริหารที่มีประสบการณ์ด้านไอทีมายาวนาน รวมถึงมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากธุรกิจอยู่ในเมกะเทรนด์ สอดคล้องนโยบายภาครัฐ และเอกชนที่มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ มุ่งสู่ Digital Transformation” นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าว
นางสาวมนวลัย รัชตกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า I2 นับเป็นผู้นำธุรกิจ SI แบบครบวงจร ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง แทบจะเรียกได้ว่า ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน โดยหนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ทางการค้า เงินที่ระดมทุนส่วนใหญ่นำไปใช้สำหรับรองรับแผนขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน จึงมั่นใจว่า I2 จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม
ด้านผลประกอบการที่ผ่านมางวดสิ้นปี 2565 มีรายได้รวม 943.38 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 44.98 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 300.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.39% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 126.18 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202.48% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.63 ล้านบาท
นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทเตรียมนำเงินไปลงทุนในงานบริการโครงการขนาดใหญ่แก่ลูกค้า นำไปใช้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อสร้าง New S Curve รองรับแผนการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
“เมื่อบริษัทได้รับเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้ฐานทุนและฐานะทางการเงินแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจให้โดดเด่นยิ่งกว่าที่ผ่านมา โดยสิ้นไตรมาส 1/66 บริษัทฯมีมูลค่างานในมือ (Backlog) แล้ว 961.25 ล้านบาท ซึ่งทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้ถึงปี 2568 หลังจากนี้เตรียมบุกขยายงานใหม่เต็มที่ เพื่อคว้างานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลงานและผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างแน่นอน” นายอธิพร กล่าว
พร้อมกันนี้ในวันแรกที่หุ้น I2 เข้าทำการซื้อขายในตลาด mai กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่จะดำเนินการขายหุ้นที่ถืออยู่ 18 ล้านหุ้น บนกระดานซื้อขายรายใหญ่ (Big lot) ในราคา IPO ให้แก่บริษัท ซินเนอร์ยี่ กรุ๊ป เวนเจอร์ส จำกัด (SGV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี (MFEC) เนื่องจาก MFEC ต้องการรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน I2 ที่ระดับ 15% หลัง IPO ในฐานะ Strategic Partner เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกันในอนาคต ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดได้เปิดเผยอย่างโปร่งใสไว้ในไฟลิ่งอยู่แล้ว
“เรื่องการขายบิ๊กล็อต 4.29% ให้แก่กลุ่ม MFEC ในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาด mai ได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่งที่นำเสนอต่อสำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ให้ทราบอยู่แล้ว และต้องการให้นักลงทุนรับรู้ข้อมูลโดยทั่วกันด้วย โดยทาง I2 เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจและแผนการเติบโตของบริษัทในอนาคต และการได้จับมือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับ MFEC สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการทำธุรกิจและการเติบโตในอนาคตที่จะขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการดำเนินงาน และโครงสร้างการบริหารของบริษัทฯ แต่อย่างใด” นายอธิพร กล่าว
I2 ประกอบธุรกิจบริการ System Integration (SI) แบบครบวงจร ได้แก่ ให้คำ ปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น Infrastructure, Network, Transformation, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสัญญาณดาวเทียม และเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66)
Tags: I2, IPO, มนวลัย รัชตกุล, หุ้นไทย, อธิพร ลิ่มเจริญ, ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์