ผ่านมาเนิ่นนานกับเหตุการณ์ของ Zipmex ที่สร้างความเสียหายแก่นักลงทุนในวงกว้าง จนทุกวันนี้นักลงทุนก็ยังไม่สามารถเรียกร้องเงินคืนจากทางแพลตฟอร์มได้ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมคริปโทฯ ไทยอย่างแท้จริง ล่าสุดทาง Zipmex ประกาศคืนเงินแก่ลูกค้าจำนวน 5.1% ของมูลค่า ณ วันที่ 22 กันยายน 2022 สิ่งนี้ถือว่ายุติธรรมแก่นักลงทุนหรือไม่ นักลงทุนที่เสียหายจะทำอย่างไรได้บ้าง!?
ล่าสุด Zipmex เหมือนจะโดนดราม่าอีกครั้ง หลังจากบริษัทประกาศหน้าเว็บไซด์และมีการส่งเมล์ถึงผู้เสียหายว่าจะคืนเงินแก่เจ้าหนี้เป็นเหรียญ USDC ในจำนวน 5.1% ของมูลค่าสินทรัพย์ ณ วันที่ 22 กันยายน 2565 เท่านั้น!! โดยไม่มีการระบุว่าจะทำการคืนเหรียญดังกล่าวเมื่อไหร่
และหากเทียบราคาของบิทคอยน์เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 อยู่ที่ 19,500 ดอลลาร์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ราคาบิทคอยน์อยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ งานนี้สร้างความไม่พอใจแก่ผู้เสียหายมาก ๆ แต่ทาง Zipmex เองก็ยังไม่ได้มีการแถลงเพิ่มเติม
หากย้อนกลับมาดูฝั่ง FTX กันบ้าง ทางฝั่ง FTX ได้เปิดให้ผู้เสียหายที่ถอนเหรียญออกจากแพลตฟอร์มไม่ได้ กรอกข้อมูลเพื่อทำเรื่องเคลมขอคืนเงินออนไลน์ ซึ่งตรงนี้ทาง FTX จะเปิดให้กรอกข้อมูล ส่งเรื่องเคลม ถึงภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยที่ยังไม่มีการประกาศว่าจะคืนเหรียญเป็นจำนวนเท่าไหร่และเมื่อไหร่เช่นกัน
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ศาลแขวงสหรัฐตอนใต้ของนิวยอร์กได้มีคำพิพากษาในกรณีที่ SEC สหรัฐยื่นฟ้อง Ripple Labs ด้วยประเด็นที่บอกว่า เหรียญ XRP เข้าข่ายว่าเป็นหลักทรัพย์ หรือว่า Securities นั่นเอง
ผู้พิพากษา Analisa Torres ได้มีคำตัดสินให้การที่บริษัท Ripple Labs ขายโทเคน XRP ในตลาดรองไม่ถือเป็นการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ แต่จากเนื้อหาตามเอกสารจะพบว่าทาง Ripple นั้นชนะคดีความแต่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังมีประเด็นการขาย XRP ให้กับสถาบันการเงิน จะยังถือว่า XRP เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ แต่ในส่วนที่ชนะคดีคือการเปิดขายให้แก่รายย่อยบน Exchange ต่าง ๆ ที่ไม่ถือว่าเข้าข่ายหลักทรัพย์
หลังจากคำตัดสินของศาลเสร็จสิ้นว่าการขาย XRP ในตลาดรองไม่ถือเป็นการระดมทุน ทำให้ Coinbase, Binance US และ Gemini Exchange กลับมาเปิดให้ซื้อขาย XRP อีกครั้ง
และ จากข่าวดังกล่าวที่ได้ประกาศออกมา ราคาของ XRP ก็พุ่งขึ้นทันทีกว่า 98% ภายในระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมง สาเหตุจากปัจจัยที่คอยกดดันราคาของ XRP มาโดยตลอดได้คลี่คลายลง ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อเหรียญ Altcoin ตัวอื่น เช่น XRP, SOL, ADA และ MATIC ที่ทาง ก.ล.ต สหรัฐก็ได้เคยกล่าวอ้างว่าเป็นหลักทรัพย์เช่นกัน
เหตุการณ์นี้ผสมกับข่าวดีจาก Ripple ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้น 2.37% ทะลุแนวต้านที่ 31,000 ดอลลาร์ และราคามีการปรับตัวร่วงลงมา โดยมองว่านักลงทุนยังคงรอคอยความชัดเจนจาก ก.ล.ต. สหรัฐ ที่เป็นผู้ชี้ขาดว่า Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐจะสามารถเปิดขายได้หรือไม่
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีงาน Bitcoin Conference 2023 งานสัมมนาบิทคอยน์ครั้งแรกในไทย โดยงานนี้มี อ. ตั๊ม พิริยะ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมจัดงาน ภายในงานมีวิทยากรทั้งไทยและต่างชาติ section เกี่ยวกับบิทคอยน์ที่น่าสนใจมากมาย ทั้งการขุดเหมือง การพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่าง Lighting Network การกำกับดูแลจากภาครัฐ รวมไปถึงก้าวต่อไปของบิทคอยน์ในอนาคต
ระหว่างการบรรยาย อ. ตั๊ม ร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง พร้อมเปิดเผยว่าได้ลาออกจากงานสอนที่มหาวิทยาลัยแล้ว โดยเลือกเดินในสายงานให้ความรู้ในเรื่องของบิทคอยน์ เพราะหวังจะให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า แล้ววันนี้อาจารย์ทำสำเร็จแล้ว คนไทยตระหนักรู้เรื่องความสำคัญของบิทคอยน์ จนเกิดเป็น Bitcoin Thailand Conference 2023
นอกจากงานสัมมนาแล้วยังมี Workshop สำหรับผู้ที่สนใจ แบบจับมือสอนเลย สำหรับสาวกบิทคอยน์ที่พลาดงานนี้ สามารถติดตามชมย้อนหลังได้ที่แฟนเพจของ อ.พิริยะ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, CryptoShot, SCOOP, XRP, Zipmex, คริปโทเคอร์เรนซี, บิตคอยน์, สินทรัพย์ดิจิทัล