ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน นลท.ประเมินข้อมูลเศรษฐกิจ

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ (20 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) จากจีน

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,001.73 เพิ่มขึ้น 49.42 จุด หรือ +0.26% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,188.44 จุด ลดลง 10.40 จุด หรือ -0.33% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,521.88 จุด ลดลง 374.15 จุด หรือ -1.14%

ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.55% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.20% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นดัชนีวัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของภาคเอกชน ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นดัชนีวัดทิศทางอัตราดอกเบี้ยของภาคครัวเรือน ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเพื่อการกู้จำนอง

การคงอัตราดอกเบี้ย LPR ในวันนี้ มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ที่ระดับ 2.65% เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงและทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ทางการจีนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานปรับตัวขึ้นมากกว่าคาดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของออสเตรเลียยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น

ข้อมูลจาก ABS ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 32,600 ตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 15,000 ตำแหน่ง แม้ตัวเลขดังกล่าวชะลอตัวลงจากเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 76,600 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (20 ก.ค.) บ่งชี้ว่า การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น เนื่องจากการส่งออกรถยนต์แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก

รายงานระบุว่า การส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 28 ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์ขยายตัว 49.7%

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ค. 66)

Tags: ,
Back to Top