บรรดานักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารรายใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทต่างพากันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2566 หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่น่าผิดหวังในไตรมาส 2/2566 โดยนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ขยายตัว 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะขยายตัว 7.3% ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนมิ.ย. และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์หดตัวลง
หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลข GDP ดังกล่าว นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP จีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 5% จากระดับ 5.5% โดยระบุว่า เป้าหมายที่ทางการจีนกำหนดไว้เมื่อเดือนมี.ค.ว่าตัวเลข GDP จะขยายตัว 5% นั้น กำลังมีความเสี่ยงในขณะนี้
ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า การคาดการณ์ GDP จีนครั้งใหม่นี้พิจารณาถึง “ความเป็นไปได้” ของการที่รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ โดยในขณะที่การประชุมคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในช่วงปลายเดือนนี้มีแนวโน้มที่จะให้แนวทางด้านนโยบายเศรษฐกิจ แต่ก็มีความเสี่ยงว่านโยบายนั้นอาจจะไม่แข็งแกร่งมากพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัวขึ้นได้
ทางด้านเจพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ลงเหลือ 5% จากระดับ 5.5% ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ลงสู่ระดับ 5% จากระดับ 5.7% นอกจากนี้ ยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์, แคปิตอล อิโคโนมิกส์ และโซซิเอเต เจเนอรัล ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจีนลงด้วยเช่นกัน
ส่วนนายลู่ ติง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์กล่าวว่า “นักลงทุนไม่ควรตั้งความหวังว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ เราไม่คิดว่าตัวเลข GDP ที่จีนเปิดเผยล่าสุดนี้จะผลักดันให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี โนมูระยังคงตัวเลขคาดการณ์ GDP จีนในปี 2566 ไว้ที่ระดับ 5.1%”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 66)
Tags: GDP จีน, จีน, เศรษฐกิจจีน