หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ตอบรับปัจจัยการเมืองมากแล้ว-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ หลังตอบรับข่าวปัจจัยการเมืองไปมาก ทำให้หุ้นใหญ่ที่ถูกกดดันก่อนหน้ากลับมาฟื้นหนุนดัชนี แต่ยังไร้ปัจจัยใหม่ แม้ตลาดคลายกังวลการขึ้นดอกเบี้ยเฟดไปบ้าง และในช่วงนี้อาจมีแรงซื้อเก็งกำไรงบฯไตรมาส 2/66 หุ้นเฉพาะตัวเข้ามาหนุน พร้อมให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ หลังจากปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ตอบรับข่าวปัจจัยการเมือง โดยฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่ถูกปัจจัยการเมืองกดดันกลับมาฟื้นตัวช่วยหนุนดัชนีให้ฟื้นกลับมา แต่ยังต้องรอความชัดเจนในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ในพรุ่งนี้

ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา หลังตลาดคลายกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งอาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียน เข้ามาหนุนหุ้นเฉพาะตัวได้

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาบวกและลบสลับกัน

โดยให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,520 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

 

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,585.35 จุด เพิ่มขึ้น 76.32 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,522.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.37 จุด หรือ +0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,244.95 จุด เพิ่มขึ้น 131.25 จุด หรือ +0.93%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,324.34 จุด ลดลง 89.44 จุด หรือ -0.46% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,206.79 จุด ลดลง 2.84 จุด หรือ -0.09% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 32,457.18 จุด เพิ่มขึ้น 65.92 จุด หรือ +0.20%

– ตลาดหุ้นไทยปิด(17 ก.ค.66) 1,528.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.85 จุด (+0.71%) มูลค่าซื้อขาย 46,463.28 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 836.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 ก.ค.66

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(17 ก.ค.) ลดลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 74.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ก.ค.) อยู่ที่ 6.28 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 34.55 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ-ธุรกรรมเบาบาง รอความชัดเจนการเมืองพรุ่งนี้

– มติ 8 พรรคดันพิธาชิงนายกฯรอบ2 มั่นใจศาลวินิจฉัยปมหุ้นสื่อ ไม่กระทบเสนอชื่อ-“เพื่อไทย” เตรียมแผน 2 ดัน “เศรษฐา” จับตาวิป 3 ฝ่ายวันนี้ ส.ว.งัดข้อบังคับขวาง ด้านภาคธุรกิจห่วงการเมืองยืดเยื้อทำได้แค่รอ และจับตาสถานการณ์ หวั่นกระทบการท่องเที่ยว

– ระทึก! ศาลรัฐธรรมนูญนัดถกคำร้องสถานะ “พิธา” ถือหุ้นสื่อ 19 ก.ค.นี้ ตรงกับวันโหวตเลือกนายกฯ รอบสอง จับตาหากศาลรับไว้วินิจฉัย ต้องลุ้นสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ด้วยหรือไม่ ขณะที่ “เรืองไกร” ร้อง ปธ.รัฐสภาสอบ “พิธา” เป็นบุคคลที่มีคุณลักษณะต้องห้ามตาม รธน. มาตรา 89 วรรคหนึ่ง (2)

– “ททท.” กางแผนแก้เกม ปี 67 รายได้ท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศฟื้น 94% คาดกรณีดีสุด สร้างเม็ดเงิน 1.92 ล้านล้านบาท จากทัวริสต์ต่างชาติ 35 ล้านคน เร่งเครื่องบูสต์ไทยเที่ยวไทย 200 ล้านคน-ครั้ง โกย 1.08 ล้านล้านบาท หนุนรายได้รวมแตะ 3 ล้านล้านบาท ฟื้น 100% ชี้เหตุปัญหาเที่ยวบิน ระหว่างประเทศยังไม่กลับมาปกติ จับตา “นักท่องเที่ยวอินเดีย” ตลาดแห่งอนาคต

– สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยไตรมาส 1/2566 เริ่มน่าเป็นห่วง ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ระบุยอดขายในภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยลดลง -29.1% สาเหตุหลักจากยอดขายอาคารชุด เพราะขาดแรงส่งจากโครงการใหม่ที่ลดลงจากปีก่อนมาก แต่ยอดขายบ้านแนวราบช่วยพยุงไว้ ส่งผลให้หน่วยที่อยู่อาศัยเหลือขายรวมในตลาดเพิ่ม 7.8%

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– WHA (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 5.00 บาท “ยอดขายที่ดินได้แรงหนุนจากเงินลงทุนต่างชาติ” แนวโน้มยอดขาย-โอนที่ดินของ WHA จะเติบโตเด่นใน 2H23E สำหรับภาพการลงทุนจากต่างประเทศในไตรมาส 2/66 มีโอกาสโตต่อ QoQ เทียบกับ มูลค่าเงินลงทุนจากต่างชาติ (FDI) 1Q23 ที่ 1.55 แสน ลบ. รายได้จากธุรกิจ Utility โตตามยอดขายที่ดินและ Operation ในนิคมที่เร่งตัว อุตสาหกรรมกลุ่ม EV+ Supply Chain ส่วนใหญ่มาที่นิคมระยอง WHA เด่นสุดในกลุ่มดีทั้ง 2 ขา DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2566-2567 ที่ 4 พัน ลบ. และ 4.78 พัน ลบ. -1%YoY และ +20%YoY ตามลำดับ

– PR9 (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 21.70 บาท ประเมินภาพรวมการดำเนินงานในปี2566 จะยังสามารถเห็นการเติบโตได้ โดยปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศ(โดยเฉพาะคลีนิก IVF ที่เน้นผู้ป่วยชาวจีน) จะสามารถ outweight รายได้ที่เกี่ยวเนื่องกับ Covid-19 ได้ นอกจากนี้กลุ่มผู้ป่วย IPD ของ PR9 ส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อนที่มีรายได้ต่อบิลสูงกว่าผู้ป่วย Covid-19 โดยทางผุ้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี66 จะเติบโต 8-9% และ วางงบลงทุน 500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ รวมปรับปรุงพื้นที่อาคาร A ชั้น 1 เพื่อรองรับเฉพาะผู้ป่วยชาวต่างชาติ ทั้งนี้ตลาดคาด กำไรสุทธิ ปี66 และ ปี67 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 578 ลบ.(+2%YoY) และ 645 ลบ.(+12%YoY) ตามลำดับ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top