ส.ว.ประพันธุ์ กางข้อบังคับสภา ยันเสนอชื่อ “พิธา” ได้แค่รอบเดียว

นายประพันธุ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาลงมติเป็นนายกรัฐมนตรี จะสามารถนำญัตติเดิมมาเสนอได้อีกหรือไม่นั้นว่า ไม่ได้ ถือว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว จบไปแล้ว เนื่องจากผลการพิจารณาเมื่อวานนี้ ปรากฎว่า นายพิธาได้คะแนนเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา จึงทำให้ญัตติดังกล่าวเป็นอันตกไป

“กรณีการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นายกรัฐมนตรี จะสามารถนำญัตติเดิมมาเสนอให้รัฐสภาพิจารณาโหวตในญัตติเดิมนี้ได้อีกหรือไม่นั้น ผมขอตอบว่า เสนอญัตติดังกล่าวเข้ามาให้รัฐสภาพิจารณาอีกครั้งไม่ได้ครับ ถือว่าญัตตินี้ตกไปแล้ว จบไปแล้วครับ” นายประพันธุ์ กล่าว

ทั้งนี้ด้วยเหตุผลจาก 1.ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 กำหนดว่า “ญัตติใดซึ่งตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเดียวกันขึ้นเสนออีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติซึ่งยังไม่มีการลงมติหรือญัตติที่ประธานสภาอนุญาต ในเมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป” ซึ่งหากพิจารณาตามข้อบังคับดังกล่าวย่อมถือได้ว่าญัตติพิจารณาให้ความเห็นชอบนายพิธา ได้ตกไปแล้ว จะนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกไม่ได้ในสมัยประชุมนี้ หากจะนำมาพิจารณาต้องมีเหตุเปลี่ยนแปลงตามมาตรา 272 วรรคสองเท่านั้น

2. มาตรา 272 วรรคสอง บัญญัติว่า “หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกของทั้งสองสภารวมกันจำนวนไม่น้อยกว่ากี่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้สภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนี้ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้”

นายประพันธุ์ กล่าวว่า จากหลักการสำคัญดังกล่าว หากโหวตครั้งแรกแล้วไม่สามารถได้บุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ว่าด้วยเหตุใด ประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจที่จะเปิดให้มีการลงคะแนนใหม่เองได้ ต้องให้สมาชิกรัฐสภารวมกันไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งเข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภาตามมาตรา 272 วรรคสองเท่านั้น ประธานรัฐสภาจึงจะจัดให้การประชุมตามญัตติที่สมาชิกรัฐสภาเสนอได้ แต่สภาก็ต้องมีเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามจึงจะดำเนินการตามวรรคหนึ่ง คือให้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี และในการพิจารณาครั้งนี้ ผู้ที่เคยได้รับการเสนอชื่อ (นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์) จึงจะสามารถถูกเสนอชื่อเข้ามาโหวตใหม่ได้ การดำเนินการใดๆ นอกจากแนวทางนี้ ย่อมไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

3.หากในระหว่างนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฎิบัติหน้าที่ ยิ่งเป็นกรณีที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะเสนอชื่อนายพิธามาให้รัฐสภาพิจารณา ควรยอมรับและเคารพมติโดยชอบของรัฐสภา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top