นักวิเคราะห์ฯคลดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ รอความชัดเจนปัจจัยการเมืองหลังโหวต “พิธา” เป็นนายกฯครั้งแรกไม่ผ่าน รอติดตามการเดินหน้าในขั้นต่อไป ส่วนภายนอกยังไร้ปัจจัยใหม่หลังเงินเฟ้อสหรัฐออกมาชะลอตัวต่อเนื่องหนุน sentiment ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลห พร้อมให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยยังรอความชัดเจนจากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังจากโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ผ่าน จึงต้องรอติดตามแนวทางในการเดินหน้าโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร
ขณะที่ภายนอกยังไร้ปัจจัยใหม่ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาชะลอลงต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุน sentiment ของตลาดหุ้น ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบ
ให้แนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,490 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (13 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,395.14 จุด เพิ่มขึ้น 47.71 จุด เพิ่มขึ้น +0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,510.04 จุด เพิ่มขึ้น 37.88 จุด หรือ +0.85% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,138.57 จุด เพิ่มขึ้น 219.61 จุด หรือ +1.58%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,534.82 จุด เพิ่มขึ้น 184.2 จุด หรือ +0.95% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,240.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.49 จุด หรือ +0.14% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 32,587.90 จุด เพิ่มขึ้น 168.57 จุด หรือ +0.52%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.ค.66) 1,494.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด (+0.19%) มูลค่าซื้อขาย 40,447.57 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.66
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.(13 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ 76.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.ค.) อยู่ที่ 5.52 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.60 อ่อนค่าสุดในภูมิภาค หลังไทยยังไม่ได้นายกฯ
– “พิธา” วืดนายกฯ รอบแรก หลัง 8 พรรค – 13 ส.ว. หนุน 324 เสียงไม่ถึงครึ่ง รัฐสภา ลุ้นโหวตใหม่รอบสอง 19 ก.ค. “เจ้าตัว” ลั่นยอมรับ ไม่ยอมแพ้ ชิงรอบสอง ซัด “ส.ว.” อย่ามีศาลเตี้ยในรัฐสภา ขณะที่ ส.ว.-ขั้ว 188 รุมซักฟอกนโยบาย ม.112 หยุดอ้าง 14 ล้านเสียง
– เปิดคำวินิจฉัยตุลาการเห็นควรยกฟ้อง กรณี “บีทีเอส” ยื่นศาลปกครองกลางฟ้อง รฟม.และคณะ กก.มาตรา 36 ปมปรับเกณฑ์ TOR รถไฟฟ้าสีส้ม ฉบับปี 65 ชี้ทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไร้ลักษณะกีดกัน ลุ้นศาลอ่านคำพิพากษา 25 ก.ค.นี้
– กองทุนน้ำมันเร่งถกควักเงินกู้ 5.5 หมื่นล้านบาท พร้อมลดการเก็บเงินเข้ากองทุนตรึงดีเซลไม่เกิน 32 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 21 ก.ค.เป็นต้นไป หลัง ครม.ไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีดีเซล คาดมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า
หุ้นเด่นวันนี้
– CK (ดีบีเอส) เก็งข่าวไม่มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่สูงถึง 450 บาท/วัน หากพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คาดกำไรไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้น yoy และ qoq เป็น 350-450 ล้านบาท การเติบโต yoy มาจากรายได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้น และ GPM อยู่ระดับดี ส่วนการเพิ่ม qoq เพราะมีปันผลรับจาก TTW และส่วนแบ่งกำไรจาก BEM มองกำไรทั้งปีโต 52% ให้ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น
– TOP (ทรีนีตี้) แนวโน้ม GRM ไตรมาส 3/66 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น Spread ของน้ำมันดีเซลและเครื่องบิน ปรับดีขึ้นประมาณ 10-15% และช่วงไตรมาส 4/66 เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวน่าจะทำให้มีความต้องการน้ำมันในกลุ่ม Middle distillate เพิ่มขึ้น แต่คงประมาณการกำไรปกติปี 66 ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ยังให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62 บาท/หุ้น
– IP (โกลเบล็ก) “ซื้อ” เป้า 17 บาท มีอัพไซด์จากการนำ Lab Pharmacy และ รพ. นครพัฒน์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ช่วยปลดล็อดมูลค่าบริษัทเนื่องจากทั้ง 2 บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตทำให้มูลค่าบริษัทปรับตัวขึ้น และคาดคาดกำไรปี 66 อยู่ที่ 179 ลบ. เติบโต 51%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย, เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม