นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า ในการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้มีประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เป็นเกมการเมืองแต่อย่างใด และมองว่าไม่กระทบต่อการพิจารณาหรือโหวตนายพิธา เพราะกรณีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ชี้ขาด ซึ่งไม่เหมือนกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนจะให้รัฐสภาโหวตนายกฯ เมื่อปี 2562 ซึ่งนายธนาธร ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมรัฐสภาได้
“เรื่องกรณีที่ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น ผมมองว่าเป็นปกติ และมองว่า กกต.ควรส่งไปตั้งนานแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่มีผู้ร้องนานแล้ว ตั้งแต่นายพิธา ยื่นสมัคร ส.ส. และจนได้เป็นส.ส. ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมือง ส่วนจะเป็นประเด็นที่ ส.ว.นำไปพิจารณาก่อนโหวตหรือไม่นั้น ผมไม่ก้าวล่วง เพราะผมเองมีหลักการโหวตคือต้องซื่อสัตย์ มีวิสัยทัศน์ และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงคำถึงถึงความมั่นคงของประเทศ ไม่ใช่ทำอะไรที่สุดโต่ง พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน” นายสมชาย กล่าว
ส่วนที่จะเปิดให้แคนดิเดทนายกฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ก่อนจะโหวตนั้น นายสมชาย ระบุว่า จะต้องรอฟังในรายละเอียดและการชี้แจงด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะจะยอมถอยประเด็นแก้มาตรา 112 หรือไม่ รวมถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่กระทบหมวด 1 หมวด 2 และพระราชอำนาจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 66)
Tags: กกต., วิปวุฒิสภา, สมชาย แสวงการ