ดีลอยท์หนึ่งในบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเผยแพร่รายงานในวันพุธ (12 ก.ค.) ระบุว่า การใช้จ่ายช่วงก่อนเปิดการศึกษา (back-to-school spending) คาดว่าจะลดต่ำลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี เนื่องจากผู้บริโภคในทุกระดับรายได้ต่างลดการจับจ่ายใช้สอยที่ไม่จำเป็น และจัดลำดับความสำคัญของสิ่งจำเป็นที่จะต้องซื้อ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
รายงานระบุว่า ผู้บริโภคจะใช้จ่ายน้อยลง 10% ในปีนี้ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเด็ก 1 คน ลดลงเหลือ 597 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ตลาดสำหรับสินค้าก่อนเปิดภาคการศึกษาโดยรวมคาดว่าจะหดตัวลงเหลือ 3.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าระดับ 3.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565
“แม้ว่าบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองเตรียมใจยอมทนกับราคาที่สูงขึ้นเมื่อปีที่แล้วสำหรับการซื้อข้าวของใหม่ (สินค้าสำหรับเด็กก่อนเปิดเทอม) หลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่พวกเขาได้เปลี่ยนใจหลังจากเผชิญกับเงินเฟ้อมานาน 18 เดือน” ดีลอยท์ระบุ โดยอ้างอิงการสำรวจผู้ปกครองของเด็กวัยเรียนมากกว่า 1,200 คน
เสื้อผ้าชุดใหม่สำหรับใส่ไปเรียนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ๆ เป็นสินค้าที่ถูกซื้อน้อยลง โดยการใช้จ่ายด้านเครื่องแต่งกายคาดว่าจะลดลง 14% ส่วนค่าใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีคาดว่าจะลดลง 13% เนื่องจากชาวอเมริกันเก็บเงินเอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นสูงสุด
เกือบ 1 ใน 3 ของบรรดาครัวเรือนที่สำรวจโดยดีลอยท์พบว่า มีสถานะทางการเงินที่แย่กว่าปีที่แล้ว โดย 51% คาดว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 66)
Tags: ผู้ปกครอง, สหรัฐ, เงินเฟ้อ, เปิดเทอม