จีนเผยอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น เหตุเยาวชนกดดันจากการเรียน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเผชิญปัญหาการฆ่าตัวตายในกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักวิจัยชั้นนำออกมาเรียกร้องให้ทางการดำเนินโครงการพิเศษเพื่อจัดการกับแรงกดดันทางวิชาการ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของจีนเปิดเผยข้อมูลการศึกษาว่า อัตราการฆ่าตัวตายในเด็กอายุ 5-14 ปีเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2553-2564 ส่วนอัตราการฆ่าตัวตายในกลุ่มคนอายุระหว่าง 15-24 ปี ลดลง 7% จนถึงปี 2560 แต่ในปี 2560-2564 กลับเพิ่มขึ้นเกือบ 20%

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังระบุว่า การแข่งขันที่รุนแรงในโรงเรียนเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการมีส่วนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรง ซึ่งส่งผลให้เด็กและวัยรุ่นมีความเสี่ยงสูงที่จะฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งของประชากรในจีนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้านั้นเป็นนักเรียน

นักวิจัยได้เรียกร้องให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญของการพัฒนาโครงการที่กำหนดเป้าหมายไปยังเด็กและวัยรุ่น โดยที่โครงการเหล่านี้ควรใช้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพจากต่างประเทศ และช่วยให้สามารถระบุพฤติกรรมเสี่ยงการฆ่าตัวตายตั้งแต่เนิ่น ๆ

ทั้งนี้ เยาวชนในจีนต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมานานหลายปีเพื่อประสบความสำเร็จในการเรียนและได้งานที่ดีหลังจากสำเร็จการศึกษา อีกทั้งปัญหายังถูกซ้ำเติมจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กินเวลา 3 ปี ซึ่งรวมถึงมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการที่บังคับใช้ในมหาวิทยาลัย และอัตราการว่างงานของเยาวชนที่สูงเป็นประวัติการณ์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top