กกพ.โยน 3 แนวทางคิดค่า Ft งวดใหม่ ขึ้น-ตรึง-ลด เปิดเฮียริ่งถึง 21 ก.ค.ก่อนเคาะปลายเดือน

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกพ.ครั้งที่ 32/2566 (ครั้งที่ 860) เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66 ได้มีมติเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 พร้อมให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปรับฟังความคิดเห็นในกรณีต่างๆ ดังนี้

กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างทั้งหมด) ปรับค่า Ft เป็น 249.81 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระเงิน กฟผ. 135,297 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 6.28 บาท/หน่วย

กรณีที่ 2 (ตรึงค่า Ft เท่ากับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66) ค่า Ft อยู่ที่ 91.19 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และทยอยชำระเงิน กฟผ.38,291 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงเดิมที่ 4.70 บาท/หน่วย

กรณีที่ 3 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 5 งวด) ค่า Ft ลดลงมาที่ 66.89 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และทยอยชำระเงิน กฟผ.แบ่งเป็น 5 งวดๆ ละ 23,428 ล้านบาท โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือน ธ.ค.66 มีภาระหนี้คงเหลือที่ต้องชำระคืนให้ กฟผ.จำนวน 111,869 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ลดลงเป็น 4.45 บาท/หน่วย ตามข้อเสนอของ กฟผ.

สำหรับผลการคำนวณประมาณค่า FT และแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ทั้ง 3 กรณีที่กล่าวข้างต้นเป็นไปตามการประมาณการต้นทุนเชื้อเพลิงโดย ปตท. และ กฟผ.นำประมาณการดังกล่าวมาคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งสำนักงาน กกพ.ได้จัดทำสรุปสมมุติฐานที่ใช้การประมาณการค่าเอฟทีในรอบคำนวณเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 เทียบกับการคำนวณในปีฐาน พ.ค.-ส.ค.58 และรอบประมาณการค่าเอฟทีเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ดังนี้

               สมมุติฐานหน่วยพ.ค. – ส.ค. 58 (ค่าไฟฟ้าฐาน) [1]พ.ค. – ส.ค. 66  (ประมาณการ) [2]ก.ย. – ธ.ค. 66 (ประมาณการ) [3]เปลี่ยนแปลง [3]-[2]
– ราคาก๊าซธรรมชาติ ทุกแหล่ง* (กิจการไฟฟ้า)บาท/ล้านบีทียู  289*399346-53 (-13%)
– ราคา Pool Gasบาท/ล้านบีทียู264379323-56 (-15%)
– ราคาน้ำมันเตาบาท/ลิตร15.2016.4021.56+5.15 (+31%)
– ราคาน้ำมันดีเซลบาท/ลิตร25.8627.8325.93-1.90 (-7%)
– ราคาลิกไนต์ (กฟผ.)บาท/ตัน569.70820.00820.000 (0%)
– ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ย (IPPs)บาท/ตัน2,825.706,016.233,018.99**-2,997.24 (-50%)
สัดส่วนก๊าซธรรมชาติใน Pool Gas อ่าวไทยเมียนมาLNGพันล้านบีทียู/วัน– – – –3,689 1,405 537 1,7473,507 1,532 545 1,430-182 (-5%) +127 (+9%) +8 (+2%) -317(-18%)
การใช้น้ำมันในการผลิตไฟฟ้าล้านลิตร/เดือนไม่อยู่ในแผนตามความจำเป็นตามความจำเป็น
ราคา Spot LNGUSD/ล้านบีทียู19.7014.15-5.55 (-28%)
อัตราแลกเปลี่ยนบาท/USD33.0533.2334.24+1.01 (+3%)
หมายเหตุ: *ราคาก๊าซฯ รวมค่าขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อและค่าดำเนินการของโรงไฟฟ้า กฟผ. และโรงไฟฟ้าเอกชน IPPs
**ราคาถ่านหินโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีไม่รวมโรงไฟฟ้าเก็กโค่-วัน

เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) ที่ลดลงในรอบ พ.ค.-ส.ค.66 ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าประมาณการค่า Ft งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 แม้ว่าก๊าซฯ จากอ่าวไทยจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นแต่จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของแหล่งก๊าซฯ ในเมียนมา ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในภาคปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณก๊าซที่ส่งให้ภาคไฟฟ้ามีจำนวนจำกัด นอกจากนี้การเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวของยุโรปส่งผลให้ความต้องการใช้ LNG เพิ่มมากขึ้นและอาจส่งผลต่อราคา LNG ในตลาดเอเชีย สำนักงาน กกพ.ร่วมกับ ปตท., กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การผลิตและใช้ก๊าซฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานในราคาที่เหมาะสม

“จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 7-21 กรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป”

นายคมกฤช กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top