สถาบันวิศวกรรมเครื่องกล (IMechE) เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดที่กล่าวถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานเมื่ออุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า “สภาวะอยู่สบาย (Thermal comfort) เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในที่ทำงาน และหากไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขวัญกำลังใจ ประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนสุขภาพ และความปลอดภัย จะมีแนวโน้มแย่ลง”
ขณะเดียวกัน คณะผู้จัดทำรายงานยังเน้นย้ำว่า สภาพแวดล้อมการทำงานที่อุณหภูมิสูงขึ้นสามารถก่อให้เกิดสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างมาก นายทิม ฟ็อกซ์ ผู้เขียนหลัก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “ยังมีผลกระทบอีกมากมาย นอกเหนือจากที่ผู้คนเหนื่อยล้า หมดแรง และไม่สามารถโฟกัสกับงานอุตสาหกรรมที่พวกเขาพยายามทำอยู่ได้” ซึ่งรวมถึง “โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น เนื่องจากความสามารถในการรับรู้ของผู้คนไม่เฉียบคมตามปกติ”
ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงานและกับอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และอาคาร นายฟ็อกซ์กล่าวว่า “ความร้อนที่สูงเกินไปส่งผลให้สูญเสียผลิตภาพทางเศรษฐกิจ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับชาติและระดับนานาชาติ”
ทั้งนี้ เม็ท ออฟฟิศ (Met Office) หน่วยงานวิจัยทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอังกฤษ คาดการณ์ว่าอุณหภูมิในฤดูร้อนของอังกฤษจะเพิ่มขึ้น 1-6 องศาเซลเซียสภายในปี 2613 พร้อมกับปริมาณน้ำฝนที่อาจลดลงถึง 60%
นอกจากนี้ เม็ทยังเตือนถึงการเพิ่มขึ้นของคลื่นความร้อนทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเสริมว่า เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ของอังกฤษ
เมื่อเดือนพ.ค ที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกกล่าวว่า “มีโอกาสถึง 98% ที่อย่างน้อย 1 ใน 5 ปีข้างหน้าและตลอดระยะเวลา 5 ปี จะกลายเป็นช่วงเวลาที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 66)
Tags: ภาวะโลกร้อน, สภาพภูมิอากาศ, โลกร้อน