นางสาวสุธิดา จงเจนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนูลักษณ์ (TNL) เปิดเผยว่า จากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรและการเพิ่มทุนใช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เพิ่มการดำเนินธุรกิจใหม่มาอีก 3 ธุรกิจ จากเดิมที่ทำธุรกิจสิ่งทอ เครื่องหนัง เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ได้แก่ 1. ธุรกิจ Real Estate For Sales (TNL ร่วมลงทุนกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์) 2. ธุรกิจการให้สินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยมุ่งเน้นอสังหาริมทรัพย์ 3. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ Assets Management (AMC) หรือการบริหาร NPLs/NPAs ที่มีหลักประกัน โดยเชื่อว่าจากการเพิ่มธุรกิจใหม่ดังกล่าวเข้ามาจะสร้าง Synergy กันเองได้ และสร้างการเติบโตให้กับ TNL
บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโต 20-30% โดยจากมาธุรกิจเดิม หรือสิ่งทอ ราว 60% และธุรกิจใหม่ 40% ขณะที่กำไรคาดจะมาจากธุรกิจใหม่เป็นหลัก เนื่องจากจะมีมาร์จิ้นสูงกว่า
ทั้งนี้แผนการดำเนินของธุรกิจใหม่ โดยธุรกิจการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน บริษัทฯ จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าขนาดกลางขึ้นไป หรือสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ (Commercial loans) และไม่เน้นลูกค้ารายย่อย เพื่อให้สามารถควบคุมหนี้เสีย (NPL) ได้
โดยปี 65 TNL มีพอร์สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และ ณ ไตรมาส 1/66 มีพอร์ตสินเชื่อโตขึ้นเป็น 4,100 ล้านบาท และไม่มีหนี้เสีย (NPL)
ส่วนธุรกิจ AMC ที่เน้น NPL มีหลักประกัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเข้าไปบริหารหนี้ หลังปิดดีลซื้อหนี้มาได้ 1 พอร์ต โดยปีนี้ก็ตั้งเป้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่ม 1,500-2,000 ล้านบาท
“การเข้ามาบุกตลาดกลุ่มธุรกิจการเงิน บริษัทมีความมั่นใจว่าจะกลายมาเป็นผู้เล่นรายสำคัญของตลาด โดยมีจุดเด่น หรือจุดแข็งจากการมี Synergy ซึ่งมีหลักทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักประกัน เช่นเดียวกับ AMC”
สำหรับ Real Estate For Sales ก็มั่นใจว่าจะแตกต่างจากเจ้าอื่นในตลาด เนื่องจากมีเครือข่ายของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในตัวธุรกิจ
พร้อมกันนี้หลังจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ผลประกอบการไตรมาส 1/66 รายได้เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 ก็เพิ่มขึ้นถึง 11% และกำไรสุทธิก็เพิ่มขึ้น 5 เท่า จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในไตรมาสถัดๆ ไป ก็คาดจะเห็นการเติบโตเพิ่มเติม และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 66)
Tags: TNL, ธนูลักษณ์, สุธิดา จงเจนกิจ, หุ้นไทย