EEC ยกคณะเดินสายโรดโชว์จีน 9-15 ก.ค.ชักชวนลงทุน EV-พลังงานสะอาด-แบตเตอรี่-การแพทย์

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC เปิดเผยว่า EEC เตรียมเดินทางไปยังจีน ทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้และกวางตุ้ง ในช่วงวันที่ 9-15 ก.ค. เพื่อให้ข้อมูล (โรดโชว์) และดึงดูดภาคธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานสะอาด แบตเตอรี่ไฟฟ้า และการแพทย์ เนื่องจากจันมีนโยบายขับเคลื่อนการลงทุนไปยังต่างประเทศ

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมามีนักธุรกิจจีนเข้ามาในประเทศไทยเพื่อมองหาโอกาสการลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะค่ายรถยนต์ EV ที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มเติม คือ บริษัท กวางโจว ออโต้ คอร์ปอเรชั่น (GAC AION) นอกเหนือจากค่าย BYD และ เกรทวอลล์ ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยแล้ว

ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนใน EEC ราว 11% หรือ ประมาณ 2 แสนล้านล้านบาท และ ภาคธุรกิจจากฮ่องกง 4% เมื่อรวมกันจะมีสัดส่วนมากที่สุดของมูลค่าการลงทุนรวม 2 ล้านล้านบาทใน EEC ขณะที่คณะกรรมการ กพอ. ได้ตั้งเป้าหมาย EEC ในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ (ปี 66-70) จะมีเม็ดเงินลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มเข้ามาปีละ 4 แสนล้านบาท

“ที่ผ่านมาสัดส่วนนักลงทุนจีนกับญี่ปุ่นสูสีกันมาตลอด ประเทศละประมาณ 15% ซึ่งเราจะโฟกัสมากขึ้น ดึงเป็นรายอุตสาหกรรม แต่ณ วันนี้ อุตสาหรรมที่ฮิตที่จีนมาลงทุนก็เป็นรถ EV”นายจุฬา กล่าว

ส่วนสถานการณ์การเมืองไทยที่ยังไม่มีความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เลขา EEC กล่าวว่า ไม่ค่อยมีผลต่อการลงทุนจากจีนมากนัก เพราะภาคธุรกิจจีนจะพิจารณาเรื่องความพร้อมของประเทศมากกว่า โดยประทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และ EEC ก็มีความพร้อมมาก รวมถึงไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนของต่างชาติอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนต่างประเทศไม่ได้ห่วงสถานการณ์การเมืองมากนัก เพราะภาพรวมประเทศไทยยังสงบเรียบร้อย

นายจุฬา กล่าวว่า การจัดประชุมความร่วมมือทางภาคธุรกิจเขตความร่วมมือเขตกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA) กับ EEC โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือด้านส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมพลังงานสะอาด เป็นต้น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจทั้งด้านการค้าการลงทุนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือ EEC ของไทยกับ GBA ของจีนครั้งนี้จะสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น

อนึ่ง วันนี้ได้มีการลงนามความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างเอกชนไทย-จีน โดยได้มีการจับคู่ทางธุรกิจมากกว่า 10 โครงการ อาทิ ความร่วมมือในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ความร่วมมือในอุตสาหกรรม EV อุตสาหกรรมอาหารและไบโอเทคโนโลยี อุตสาหกรรมโลจิสติกส์และบริการ

EEC และ GBA จะร่วมมือกันส่งเสริมและสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจทั้งการค้าและลงทุนโดยในส่วนของ EEC ได้วางยุทธศาสตร์และกรอบความร่วมมือไทย-จีน ได้แก่ การเชื่อมต่อ EEC และ GBA ขยายการค้าการเสริมสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขยายความร่วมมือทางด้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมการส่งเสริมความร่วมมือด้านการแพทย์แผนจีนและการศึกษาระดับอาชีวศึกษา

นายหวัง เว่ย โจง ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า มณฑลกวางตุ้งมีขนาด GDP ใหญ่ที่สุดในจีน และใหญ่กว้าไทยถึง 5 เท่า ประชากรมากกว่าไทย 4 เท่า มีอุตสาหกรรมเทคโนโลยี อุตสาหกรรมรถ EV รวมถึงนวัตกรรมใหม่ เป็นด่านหน้าในการเปิดประเทศและขับเคลื่อนการปฏิรูปในประเทศจีนเป็นเขตพื้นที่ในการนำร่องของประเทศจีน

การจัดเสวนาการค้าไทยจีนวันนี้เน้นการขับเคลื่อนข้อตกลงระหว่างไทย-จีนไปสู่ภาคปฏิบัติทำให้เสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศในเชิงลึก ซึ่งมณฑลกวางตุ้งกับไทยมีความใกล้ชิดทางพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์และภูมิศาสตร์ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมณฑลกวางตุ้งและไทยได้มีการพัฒนาความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้น ทำให้เราเกิดความมั่นใจอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , , ,
Back to Top