นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงความขัดแย้งในการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตนตอบไม่ได้ว่าจะเป็นชนวนทำให้เกิดการสลับขั้วในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เพราะ ชทพ.มี ส.ส.แค่ 10 คนเท่านั้น ดังนั้นต้องรอดูสถานการณ์และความชัดเจนจากพรรคใหญ่ว่ามีแนวทางอย่างไร
ส่วนจะส่งผลให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองหรือไม่ ตนคงไปตอบแทนคนอื่นไม่ได้ ทุกอย่างหลังการเลือกตั้งที่อาจมีความไม่แน่นอน เป็นสิทธิที่แต่ละพรรคต้องเข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศ ประคับประคองให้เกิดความราบรื่น ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น
“ประเด็นประธานสภาฯ ที่ขัดแย้ง ผมมองว่าเป็นประเด็นท้าทายของผู้ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว ซึ่ง พล.ต.ต.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่จะทำหน้าที่ เป็นผู้คร่ำหวอดทางการเมือง มีประสบการณ์ และวุฒิภาวะ เป็นที่ยอมรับจากหลายฝ่าย ต้องรับความท้าทาย และควบคุมการประชุมในสภาฯ ครั้งแรกได้” นายวราวุธ กล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวของ ส.ว.ในการหาช่องในการตรวจสอบคุณสมบัติแคนดิเดทนายกฯ นั้น นายวราวุธ มองว่า เป็นมุมมองและเอกสิทธิ์ของ ส.ว.ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมโหวตนายกฯ ทั้งนี้ ส.ว.สามารถตั้งข้อสงสัยในศักยภาพของแคนดิเดทนายกฯได้เป็นปกติ ทั้งนี้คนที่จะเป็นนายกฯ ต้องพร้อมยอมรับการตรวจสอบจากสังคมและสาธารณะ
อย่าไรก็ตาม แนวทางลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ ชทพ.นั้นต้องหารือกันในพรรรค รวมถึงรอความชัดเจนว่าใครจะถูกเสนอชื่อ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 66)
Tags: การเมือง, พรรคชาติไทยพัฒนา, รัฐบาล