ต่างชาติเข้าไทย ทะลุ 12.4 ล้านคน สัญญาณบวกนทท.จีนกลับมาขึ้นอันดับ 1

กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 26 มิ.ย. 66 พบว่า ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (19-25 มิ.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 523,794 คน คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 74,828 คน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 12,464,812 คน หรือคิดเป็น 539%YoY สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 514,237 ล้านบาท

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมา จีนเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากที่สุด 85,065 คน รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย 67,082 คน อินเดีย 36,653 คน เกาหลีใต้ 28,857 คน และเวียดนาม 26,798 คน ตามลำดับ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นไปตามคาด จากการกลับมาขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่เพิ่มขึ้น 15.34%WoW ทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเป็นที่ 1 แซงหน้านักท่องเที่ยวมาเลเซีย ในขณะที่นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง เพิ่มขึ้น 77.84%

อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงขยายตัวในทุกตลาดหลัก ยกเว้นนักท่องเที่ยวอาเซียนที่ชะลอตัวลง 4.28% ส่งผลให้ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 6.94%WoW

ทั้งนี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน มิ.ย. 66 ที่ 2.17 ล้านคน จากสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยวจีน ให้สามารถรักษาระดับการขยายตัวที่เป็น double-digit ให้ได้ โดยคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยราว 5 แสนคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดเอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ เป็นหลัก

สำหรับปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญในระยะถัดไป คาดว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยจะมีแนวโน้มการขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากการกลับมาขยายตัว double-digit ของนักท่องเที่ยวจีน และข่าวการเพิ่มเส้นทางบินและเครื่องบินของสายการบินต่างๆ รวมถึงความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนของไทย ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มความสะดวก และลดข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติลง

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลก ยังคงมีความไม่แน่นอนจากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง รวมถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและคาดเดาได้ยากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 มิ.ย. 66)

Tags: , ,
Back to Top