เพื่อไทย มั่นใจดีลปธ.สภาฯ จบ จ่อคุยแผนสำรอง 8 พรรคหากตั้งรัฐบาลไม่ได้

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรควันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนจะเคาะรายชื่อได้เลยหรือไม่ จะเน้นรับฟังความเห็น ส.ส.ก่อน ส่วนการตัดสินใจจะเกิดขึ้นหลังจากได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกลให้เสร็จเสียก่อน โดยที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเคยมีจุดยืนเรื่องนี้ไปแล้ว และพรรคก้าวไกล ก็ยังไม่ได้มีการคุยต่อ ได้แต่เลื่อนนัดกันไปมา และคิดว่าวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ใกล้วันเปิดประชุมสภาฯ จะสรุปร่วมกันได้ ถึงทิศทางว่าประธานสภาฯ และ 2 รองประธานสภาฯ จะเป็นอย่างไร

หลังจากนั้น ก็เข้าสู่กระบวนการสรรหาอย่างเร่งด่วนของทั้ง 2 พรรค ที่ต้องตกลงกันว่าใครจะอยู่ตรงไหน ส่วนการเสนอรายชื่อในวงพูดคุยนั้น จะรายชื่อเดียว หรือ 2 รายชื่อ ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้

“เมื่อประชุมพรรคในวันพรุ่งนี้ เรื่องจะชัดเจนมากขึ้น การโหวตสำคัญอย่างครั้งนี้ พรรคไม่เคยปล่อยให้เป็นฟรีโหวต แม้กระทั่งโหวตเลือกประธานสภาฯ จะเป็นการลงคะแนนลับ แค่เราเชื่อใจกัน เมื่อเป็นมติออกไปแล้ว ต้องเชื่อมั่น และมั่นใจใน ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า ในการหารือกับพรรคก้าวไกลวันพุธนี้ (28 มิ.ย.) ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ตกลงกันได้ หลังจากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการสรรหาอย่างเร่งด่วนของทั้ง 2 พรรค

“คิดว่าวันพุธนี้ ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ตกลงกันได้ พรรคเพื่อไทยก็จะเริ่มสรรหา และเสนอรายชื่อโดยเร็วที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้ประชาชน” นายประเสริฐ กล่าว

ส่วนประเด็นพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องเตรียมแผนสำรองหรือไม่ กรณีที่พรรคก้าวไกลไม่สามารถตั้งรัฐบาลสำเร็จ นายประเสริฐ ระบุว่า วันที่ 29 มิ.ย.นี้ เป็นวันประชุม 8 พรรคร่วมว่าที่รัฐบาล คิดว่าจะมีการพูดคุยประเด็นนี้ด้วยว่าสถานการณ์ทางการเมือง หลังเลือกประธานสภาฯ เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี อาจจะต้องมีการคุยกันอย่างรอบคอบและชัดเจน โดยเฉพาะจำนวนสมาชิกที่สนับสนุน

นายประเสริฐ ตอบคำถามถึงกระแสข่าวเงินสะพัดซื้อตัว ส.ส.งูเห่าข้ามค่ายหลักร้อยล้าน ว่า ครั้งนี้คงไม่ง่าย เพราะวันนี้ประชาธิปไตยพัฒนาไปไกลแล้ว การจะกลับมาตั้งรัฐบาลงูเห่าเป็นภาวะถอยหลังและไม่ควรทำ และที่ผ่านมา ก็เห็นตัวอย่างใครที่เคยมีข้อกล่าวหาเรื่องงูเห่าเกือบทุกคน ไม่มีใครได้กลับเข้าสภาฯ สักคน จึงอยากให้เป็นข้อพึงระวังว่าไม่ควรทำ เพราะถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top