นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ไทย ไตรมาส 1 ปี 66 ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการเงินดาวน์ขั้นต่ำในการกู้ซื้อบ้าน หรือมาตรการ LTV (Loan to Value) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ทำให้การกู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้น้อยลง จึงขอฝากไปถึงภาครัฐให้นำมาตการ LTV กลับมาใช้อีกครั้ง โดยเริ่มจากกลางปีนี้ไปถึงปลายปีหน้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงภาคธนาคารด้วย
นายพีระพงศ์ กล่าวว่า หลังช่วงโควิด สถานการณ์การขออนุญาตก่อสร้างและการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดน้อยลง รวมถึงจำนวนยูนิตที่เปิดใหม่ และจำนวนยูนิตที่ขายได้ ก็ชะลอตัวจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไทยยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี เป็นศูนย์กลางอาเซียน ยังมีโอกาสที่จะดึงดูดอุปสงค์ด้านอสังหาริมทรัพย์จากชาวต่างชาติ และโอกาสที่ไทยสามารถใช้ศักยภาพเพื่อการลงทุนต่างประเทศในอนาคต
พร้อมฝากข้อเสนอว่าควรเปิดโอกาสให้ต่างชาติสามารถซื้อบ้านจัดสรรได้ โดยกำหนดเกณฑ์ซื้อบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยให้สามารถซื้อได้ในพื้นที่ปริมณทล หรือปลายเส้นทางรถไฟฟ้า หรือในเมืองรอง การเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ 10% และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เก็บสูงขึ้น 2-3% เพื่อนำเงินส่วนนี้มาพัฒนาประเทศ
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ มองว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และคาดหวังว่าจะมีรัฐบาลใหม่ได้ในเดือนส.ค. ซึ่งปัจจัยนี้จะช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่องได้ ขณะเดียวกัน มองว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังพอมีปัจจัยอื่นที่ช่วยสนับสนุนร่วมด้วย เช่น ภาคอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวดีขึ้น การจ้างงานดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อลดลง การกลับมาของชาวต่างชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขาย และโอนกรรมสิทธิ์
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยกดดัน เช่น อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้ความสามารถในการจับจ่ายของประชาชนถูกจำกัด ความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ รวมทั้งความไม่แน่นอนทางการเมือง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มิ.ย. 66)
Tags: ORI, พีระพงศ์ จรูญเอก, อสังหาริมทรัพย์, ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้