นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง ความคืบหน้าพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ประชุม กกต. ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผล ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย
กรณีเอกสารหลุดเรื่องจำนวน 71 ส.ส.ที่พบเรื่องร้องเรียนนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นเอกสารที่สำนักงานฯ เสนอข้อมูลต่อที่ประชุม กกต.เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนจะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ส.ส.หรือไม่ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน
“การประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน จะช้าหรือเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่ ข้อมูลที่ได้นั้นมาจากผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามว่ามีว่าที่ ส.ส.ท่านใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อย 95% แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบ 100% ยืนยันว่าจะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562” นายอิทธิพร กล่าว
สำหรับการพิจารณาใบเหลืองหรือใบส้มนั้นจะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจาก กกต.จังหวัด หรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการ กกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. จึงไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ขอยืนยันว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบเวลา 60 วัน หาก กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องย่นระยะเวลาเพื่อดำเนินการบ้างอย่าง ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้เริ่มพิจารณา
ส่วนกรณีที่มีการร้องให้ตรวจสอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ถือครองหุ้น บมจ.ไอทีวี (ITV) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการของ กกต.แล้ว โดยมีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งจะดำเนินการไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน โดยกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน โดยต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆ อย่างเคร่งครัด โดยขั้นตอนของคณะกรรมการฯ มีหน้าที่ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้นเรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้ เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด
ส่วนการประกาศรับรองผลนั้นไม่เกี่ยวกับการสืบสวนไต่สวน เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญคือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่
สำหรับข้อเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือการนำเสนอของใคร ทุกอย่าง กกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน ซึ่งตามกฎหมายไม่จำเป็นต้องมีผู้มาร้อง โดยตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึง กกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอหรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมหรือสามารถตัดสินได้เลย แต่จะไปคิดว่าต้องพิจารณาให้ทันโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหาไม่ได้ เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการ ถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวนก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 66)
Tags: กกต., การเมือง, รับรองผลการเลือกตั้ง, อิทธิพร บุญประคอง, เลือกตั้ง