FVC กวาดงานใหม่เข้าพอร์ต 12 โครงการกว่า 49.67 ลบ.ทยอยรับรู้ตั้งแต่ Q2/66

นายวิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ (“FVC”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มโอกาศการรับงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ มีคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้า 12 งาน มูลค่ารวม 49.67 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มติดตั้งระบบดังกล่าวได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี 66 และคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือน พ.ค.66 เป็นต้นไป

อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการวางกลยุทธ์การตลาด เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในเทคโนโลยีบำบัดและการฆ่าเชื้อในน้ำมาช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ภายใต้การขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโครงการสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมชั้นนำขนาดใหญ่ โดยตั้งแต่ปลายไตรมาส ที่ 4/2565 บริษัทฯ สามารถเข้าดำเนินงานโครงการระบบน้ำขนาดใหญ่แล้วเสร็จต่อเนื่องตามที่วางไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตามแผนกำหนด และคาดว่าหลังจากนี้บริษัทฯจะมีงานใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของกลุ่มลูกค้าครัวเรือน รวมถึงลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่กลับมาลงทุนในระบบบำบัดน้ำ

ขณะที่กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจเริ่มส่งสัญญาณบวก ทำให้ลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งในกลุ่มร้านอาหาร และรวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจากทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการกลับมาเปิดดำเนินกิจการในสภาวะปกติ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้คำสั่งซื้ออะไหล่ ไส้กรอง อุปกรณ์กรองน้ำ รวมถึงงานบริการดูแลบำรุงรักษา เริ่มกลับมาทยอยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสอดรับกับการที่ลูกค้าเตรียมแผนงานติดตั้งระบบน้ำใหม่

ประกอบกับจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่งผลให้ลูกค้ามีความใส่ใจในเรื่องสุขภาพ ความสะอาดของอาหารและเครื่องดื่มเกี่ยวกับการจัดการเรื่องเชื้อปนเปื้อนในอาหาร ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโอโซน เช่น เครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจนและน้ำโอโซนให้กับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการด้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำได้เพิ่มขึ้น

ส่วนกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) หรือกลุ่ม บมจ.เคที เมดิคอล เซอร์วิส (KTMS) นั้น ปัจจุบันทาง KTMS มีการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยการขยายสาขาและเพิ่มเครื่องไตเทียม ซึ่งมีการตั้งเป้าปี 66 จะขยายสาขาประมาณ 4-9 แห่ง และเครื่องไตเทียมประมาณ 70-82 เครื่อง ขณะที่บริษัท เนโฟรวิชั่น จำกัด (ภายใต้บริษัทย่อย KTMS) ปัจจุบันมีแผนสำหรับการเปิดสาขา และซื้อเครื่องไตเทียมในปี 66 โดยจะเปิดสาขา 1-2 แห่ง และซื้อเครื่องไตเทียมประมาณ 16-24 เครื่อง เช่นเดียวกันบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปัจจุบันบริษัทฯได้รับสั่งซื้องานติดตั้งระบบน้ำจากลูกค้าแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 6 ล้านบาท โดยคาดว่าจะติดตั้งให้แล้วเสร็จในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี 66

และในส่วนของ บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ได้รับคำสั่งซื้องานติดตั้งท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์จากลูกค้าแล้ว 9 โครงการ มูลค่ารวม 16.05 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งและคาดว่าแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ปี 66 นี้

ดังนั้น หากพิจารณาจากแผนการดำเนินงานของการให้บริการทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ จะหนุนการอัตราการเติบโตรายได้ของ FVC ในปี 66 แตะระดับพันล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มโอกาสการเติบโตให้กลุ่มบริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 214.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.88% (YoY) และมีกำไรสุทธิในส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 8.14 ล้านบาท แม้ไตรมาสแรกจะเติบโต แต่บริษัทก็ยังคงจับตาภาพรวมของเศรษฐกิจโลกที่มีตัวแปรหลักเรื่องอัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความยืดเยื้อของสงครามระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านพลังงาน ต้นทุนสินค้า และบริการของกลุ่มบริษัทฯเพิ่มสูงขึ้น

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 66)

Tags: , , , ,
Back to Top