นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “โลกเผชิญหน้าเศรษฐกิจถดถอย อัตราดอกเบี้ยสูง” เราจะบริหารเงินอย่างไรดี ว่า การลงทุนในระยะต่อไปข้างหน้ามองเป็นโอกาสมากขึ้น หลังจากที่ได้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจมา 1 ปี ครึ่งแล้ว และปัจจุบันอยู่ในช่วงกึ่งกลางของปัญหาทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจ คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้ถึงจุดจบแล้ว เนื่องจากปัจจุบันดอกเบี้ยอยู่ในกรอบ 6% สูงที่สุดในรอบ 2 ปี และพร้อมที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย เมื่อเห็นว่าตัวเลขต่างๆ ได้แก่ แนวโน้มเงินเฟ้อลดลง, ตัวเลขแรงงานตึงตัว และภาวะสินเชื่อตึงตัว (Credit Tightening) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามคาดเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยยาวนานอย่างน้อย 3-4 ไตรมาส จากตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3 เดือน ก่อนที่จะลดดอกเบี้ย หรือน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงกลางปีหน้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่เมื่อดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง ค่าเงินดอลลาร์ก็จะกลับมาแข็งค่า กดดันต่อค่าเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งรวมถึงค่าเงินบาทด้วย
ปัจจัยที่สำคัญอีกประเด็นหนึ่ง คือ เศรษฐกิจโลกกำลังจะเข้าสู่ช่วงที่ท้าทาย หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/66 หรือไตรมาส 1/67 แต่มองว่าจะไม่แย่มากจนเกินไป หรือติดลบเล็กน้อย แต่ก็จะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ทำให้ต้องมีการปรับประมาณการการเติบโตกันอีกครั้ง ประกอบกับในประเทศจีนเอง ในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขการผลิต (PMI) ก็ปรับตัวลดลง รวมไปถึงการส่งออกที่ปรับตัวลง ส่งผลกดดันต่อหุ้นกลุ่มส่งออก
ทั้งนี้จากปัจจัยดังกล่าว เราจะบริหารเงินอย่างไรดี จึงแนะ 5 ทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน ได้แก่
-
หุ้น จากปีนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนที่เป็นหลุมหลบภัย และยังมีประเด็นการเมืองเข้ามากดดันเพิ่ม ซึ่งมองเป็นช่วงที่น่าสนใจที่สุด
-
พันธบัตร ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง เฟดคงอัตราดอกเบี้ยก็จะเป็นเป้าหมายต่อไป
-
ทองคำ ถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำนิวไฮได้ในช่วงที่เกิดวิกฤต ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เช่นในช่วงการเกิดโควิด-19, สงครามยูเครน-รัสเซีย และล่าสุดช่วงแบงก์สหรัฐล้ม
-
บิตคอยน์ (BTC) จากปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเผชิญวิกฤต และเชื่อมั่นว่าฝ่ายกำกับดูแลจะเข้ามาควบคุม ให้สินทรัพย์นี้คงอยู่ต่อไปได้
-
เงินฝาก จากดอกเบี้ยที่คาดจะปรับตัวขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยคาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกสัก 1 ครั้ง ในการประชุมเดือนส.ค. ก่อนจะเข้าสู่ช่วงคับขันของเศรษฐกิจโลก
“เมื่อเรามองไปจนกระทั่งทุกอย่างสงบลงเรียบร้อยแล้ว ไม่มีภาวะเศรษฐกิจถดถอย เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ดอกเบี้ยเริ่มลง ผลตอบแทนที่เราจะได้พอสมควร ก็จะเริ่มกลับมา ซึ่งอยากให้คิดว่าไม่มีใครซื้อได้ที่จุดต่ำสุด แต่ควรซื้อในราคาที่พอใจ และช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงของการเทรดดิ้ง แต่เป็นการซื้อและถือไว้ในระยะเวลาหนึ่ง หรือ 2-3 ปีจากนี้ ในหุ้นที่เหมาะสม ก็จะเห็นการรีเทิร์นกลับมาได้ โดยในช่วงที่เกิดวิกฤตเราควรจะมองหาว่าอะไรจะอยู่กับเราต่อไปในอนาคต หลังจากนั้นก็จะเป็นโอกาสที่เราจะขายทำกำไร” ประธาน FETCO
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 66)
Tags: FETCO, กอบศักดิ์ ภูตระกูล, การลงทุน