ส.ว.เล็งสอบปมทำประชามติแบ่งแยกดินแดน จี้ กอ.รมน.-กกต.เอาผิด

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรียกร้องให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการตรวจสอบกรณีคณะนักศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใตั จัดกิจกรรมทำประชามติเพื่อแบ่งแยกดินแดน หรือรัฐปาตานี ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่ามีนักการเมือง และพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง

พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบนักการเมือง รวมถึงว่าที่ ส.ส.ของบางพรรคการเมืองที่เข้าร่วมเวทีดังกล่าว และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลุกปั่นให้นักศึกษาดำเนินการเรื่องดังกล่าว

นายสมชาย ระบุว่า มีคลิปที่นักการเมืองบางพรรค จัดเวทีปลุกระดม ซึ่งมีลักษณะเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ ในมาตราว่าด้วยราชอาณาจักรไทยเป็นหนึ่งเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ซึ่งคนที่ทำนั้นเข้าข่ายทำผิดเป็นกบฎ และเข้าข่ายยุบพรรค ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยว่าเป็นพรรคการเมืองใด ขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบ

“การประกาศของนักศึกษา ตามคำประกาศ เขาไม่รู้ว่านั่นคือการทำผิดที่ความผิดสำเร็จแล้ว แต่ผมเชื่อว่าเขาไม่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เพราะมีผู้ใหญ่ที่ปั่นหัว และอยู่เบื้องหลัง ส่วนการระบุว่ามีข้อเสนอให้ทำประชามติแบ่งแยกดินแดนเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ผมขอข้าราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่อย่ากลัวนักการเมือง เพราะหากละเว้นจะเข้าข่าย มาตรา 157 แม้จะคารพสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ควรมีเรื่องแยกบ้านแยกเมือง เพราะจะทำให้ประเทศไปต่อไม่ได้ และคนในประเทศจะอยู่กันไม่ได้” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่า กอ.รมน.ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบให้จริงจัง อย่าปล่อยให้บานปลาย กอ.รมน.มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ รวมถึงแม่ทัพภาค 4 เป็นกรรมการ ดังนั้นต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะการทำประชามติให้แบ่งแยกดินแดน

พร้อมมองว่า พรรคการเมืองที่ยุยงให้เกิดเรื่องการทำประชามมติแบ่งแยกดินแดน ไม่สมควรเป็นพรรคการเมือง ไม่สมควรได้เป็น ส.ส. อย่าอ้างความรักชาติ แต่เรื่องนี้คือการเคารพพหุวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย แต่หากยังทำเรื่องนี้ คนไทยจะสู้ถึงที่สุด และเป็นสงครามภายในประเทศ

“เรื่องภาคใต้นั้น ไม่ใช่ความเหลื่อมล้ำ หรือเรื่องชนชาติ คนที่ทำต้องขอโทษประชาชนคนไทย ผมไม่อยากให้นักศึกษาที่ทำเวทีติดคุก เพราะถูกผู้ใหญ่ปั่นหัว และข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คือการแบ่งแยกดินแดน ทั้งนี้ กมธ.จะติดตาม และนำเอกสารหลักฐานที่ได้มาตรวจสอบ รวมถึงให้ กมธ.ความมั่นคง วุฒิสภาติดตามการทำหน้าที่ของ กอ.รมน. ส่วน กกต.นั้นต้องติดตามพรรคการเมืองใดที่สนับสนุนการเงินและเอาผิด หากนักการเมืองที่สนับสนุนเป็นกรรมการบริหารพรรค ต้องยุบพรรค” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า การที่นายวรวิทย์ บารู ว่าที่ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวนั้น ตนเคยทำงานร่วมกับนายวรวิทย์ และฟังการชี้แจงจากนายวรวิทย์แล้ว ว่าไม่ทราบเรื่อง ไปร่วมงานตอนบ่าย ดังนั้นต้องตรวจสอบว่าใครจัดงานหรือใครสนับสนุน พรรคไหนให้งบในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top