จากหลายเหตุการณ์ในตลาดหุ้นตลาดเงินได้เกิดความเสียหายของนักลงทุนเกิดขึ้นวงกว้าง ทั้งจากกรณีถูกฉ้อโกง ปั่นหุ้น การผิดนัดชำระ แต่ที่ผ่านมาการฟ้องร้องของนักลงทุนเหมือนเป็นคลื่นกระทบฝั่ง บางรายก็อาจไม่สามารถทวงคืนอะไรได้เลย คนโกงก็ยังลอยนวล ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้สนับสนุนให้สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินหน้าโครงการวิจัย ศึกษาแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดำเนินคดีที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับผู้เสียหายในการสู้คดีได้มากขึ้น
จนเป็นที่มาการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ที่สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) โดยบทบาทของศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุน คือ เผยแพร่ความรู้ และข้อมูลในการดำเนินคดีหลักทรัพย์แบบกลุ่ม, จัดทำบัญชีรายชื่อทนายความที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการดำเนินคดีหลักทรัพย์แบบกลุ่ม ในด้านการให้คำแนะนำประสานงาน โดยขอบเขตครอบคลุมหลักทรัพย์ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เช่น หุ้น, หุ้นกู้, ตั๋วแลกเงิน ไม่รวมสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ทั้งนี้ ศูนย์ฯ จะไม่เข้าเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้องร้อง
นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดผยว่า การจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้ และบอกเล่าแนวทางการให้ความช่วยเหลือกับผู้ลงทุนไว้ ซึ่งต้องการให้ผู้ลงทุนตระหนักรู้ว่ามีกฎหมาย มีแนวทางการฟ้องคดีแบบกลุ่ม ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง รวมทั้งสมาคมฯร่วมกับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์จัดให้ความรู้กับทนายเพื่อให้มีจำนวนทนายที่มีความรู้เกี่ยวกับหลักทรัพย์เพื่อช่วยเหลือกับนักลงทุนได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือก่อนการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ดี อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 66)
Tags: Class Action, HotIssue, SCOOP, ก.ล.ต., การดำเนินคดีแบบกลุ่ม, ฉ้อโกง, ตลท., ปั่นหุ้น, ยิ่งยง นิลเสนา