“ก้าวไกล” ส่งหลักฐานส่วยสติ๊กเกอร์ถึงมือจเรตำรวจ รอลุ้นผลไม่เกิน 15 วัน

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำเอกสารหลักฐาน กรณีส่วยสติกเกอร์ที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย มอบให้พรรคก้าวไกล ส่งต่อให้จเรตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง

นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้รับการประสานงานที่ดี ทั้งจากจเรตำรวจแห่งชาติ และตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง ที่เข้าร่วมรับฟังด้วย โดยตนได้นำข้อมูลเบาะแสเบื้องต้นที่รวบรวมจาก 2 ส่วน คือจากพลเมืองดี และจากสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้อมูลปลายทาง ส่งให้จเรตำรวจฯ เพื่อให้เกิดการขยายผลข้อมูล และการสอบสวนเชิงลึก วันนี้จึงเหมือนเป็นการทวนสอบข้อมูลว่าตรงกันหรือไม่ เพื่อให้ตำรวจดำเนินการด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น

สำหรับความคาดหวังจากการยื่นข้อมูลครั้งนี้ เบื้องต้นหวังว่า การรังควาน กลั่นแกล้ง รังแก สร้างความเดือดร้อนเพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการที่สุจริตต้องเบาบางลงหรือหมดไป และนอกจากส่วยสติกเกอร์ ยังหวังว่าการเรียกรับผลประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะทุเลาลงและหมดไปเช่นกัน เช่น การพิจารณาดำเนินคดีกับผู้สนับสนุนการบรรทุกเกินน้ำหนัก

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่จะหารือกับจเรตำรวจฯ คือการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวนบางคน ปัจจุบันพิกัดน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 50.5 ตัน แต่บางครั้งเมื่อเข้าด่านชั่งน้ำหนัก รถบางคันเกินมา 100-200 กิโลกรัม ซึ่งโดยพฤติการณ์ ย่อมรู้ได้ว่าไม่ได้มีเจตนาบรรทุกน้ำหนักเกิน เพราะถ้ามีเจตนามักจะเกินไปหลายสิบตัน แต่ด้วยกฎหมายที่มีโทษถึงริบรถ ทำให้พนักงานสอบสวนบางคนระบุเรื่องน้ำหนักเกินลงในสำนวน และเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการว่าถ้าจะไม่ใส่ข้อความนี้ ต้องจ่ายผลประโยชน์ โดยบางกรณีที่ไปถึงชั้นศาล พบว่ามีการพัวพันไปถึงอัยการบางคนด้วย

“ย้ำว่า เรื่องนี้ไม่สามารถเหมารวมเจ้าหน้าที่ หรือผู้ประกอบการทุกคนได้ ผู้ประกอบการบางคน ทำเพราะจำยอม ดังนั้น วันนี้เรากำลังต้องการทำให้ทุกอย่างมีความโปร่งใสร่วมกัน” นายวิโรจน์ ระบุ

ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มอบหมายให้จเรตำรวจดูแลเรื่องนี้ ขณะที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็มีคณะทำงานดูแล เพื่อดูว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องพาดพิงใครบ้าง ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีและเร็วที่สุด ใครที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจทางหลวง หรือตำรวจส่วนอื่นต้องรับผิดชอบ โดยหากใครมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถส่งมาได้ เบื้องต้นวางกรอบในการทำงานไม่เกิน 15 วัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 66)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top