ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนพ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 55.07 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน นับตั้งแต่มี.ค.63
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 50.2 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 52.8 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 64.2 ซึ่งดัชนีทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ 1.บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่คึกคัก ส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น 2.สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เผย จีดีพีไตรมาส 1/66 ขยายตัว 2.7% เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า คาดทั้งปีจีดีพี โต 3.2% จากปัจจัยหนุนภาคท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน 3.นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้าไทยมากขึ้น ส่งผลดีให้เม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น 4.ราคาพืชผลเกษตรหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกร และกำลังซื้อในภูมิภาค 5.ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง 6.เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
ขณะที่ยังมีปัจจัยลบ ได้แก่ 1. ผู้บริโภคกังวลปัญหาเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า รวมทั้งภาวะค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง 2.ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และเสถียรภาพทางการเมือง 3.สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภาคการเงินในสหรัฐ มีผลทางจิตวิทยาเชิงลบ 4.คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% 5. การส่งออกไทย เดือนเม.ย. หดตัว 7.6%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 66)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ, หอการค้าไทย