TEKA ปักธงปี 66 รายได้โต 13% แตะ 2.2 พันลบ. ลุยประมูลงานเติมพอร์ต-ส่องหาธุรกิจใหม่

นายสุพล จงจินตรักษา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.ฑีฆาก่อสร้าง (TEKA) เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 2,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 13% และจะเพิ่มเป็น 22% ในปี 2567 จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยหลังเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้การก่อสร้างอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์ในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวขยายตัวสูง การก่อสร้างภาคเอกชนขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะชาวจีนที่นิยมอสังหาฯไทย

โดยในปีนี้บริษัทฯ เซ็นสัญญารับงานใหม่ไปแล้วมูลค่ารวม 1,282 ล้านบาท ได้แก่ ในเดือนมกราคม ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้าง “โครงการ นิว คอนเน็กซ์ คอนโด ดอนเมือง” มูลค่า 954 ล้านบาท จาก บริษัท คอนติเนนตัล ซิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลในเครือ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ระยะเวลาก่อสร้าง 16 เดือน โดยเริ่มต้นก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

และในเดือนเมษายนนี้ ได้เซ็นสัญญา “โครงการ ARLO LASALLE 17” มูลค่า 328 ล้านบาท จาก บริษัท เรียลลาซาล 17 จำกัด กำหนดระยะเวลาก่อสร้าง 9 เดือน เริ่มต้นก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2566 ส่งผลให้มีงานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 3,105 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2568 และปัจจุบันบริษัทยังคงประมูลงานอย่างต่อเนื่องทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อเติมพอร์ต ทำให้รายได้เติบโตได้ตามเป้า

บริษัทวางแผนภาพรวมการรับรู้รายได้ในอนาคตปี 67-68 จะเพิ่มสัดส่วนงานภาครัฐ งานประเภท Warehouse กลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ศูนย์การค้าที่จะเกิดมาร์จิ้นที่ดีขึ้น เพื่อกระจายการรับรู้รายได้ และขยายฐานลูกค้า และเป้าหมายปี 66 รักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 10-15%

ในไตรมาส 1/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการก่อสร้างรวม 384.52 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) 214.63 ล้านบาท หรอื 35.80% มีกำไรขั้นต้น 53.41 ล้านบาท ลดลง46.42 ล้านบาท หรือ 46.50% YoY และสัดส่วนกำไรขั้นต้นเทียบกับรายได้จากการก่อสร้าง 13.89% ลดลง 2.77% เนื่องจากโครงการของบริษัทที่ดำเนินอยู่ อยู่ในขั้นตอนการส่งมอบงานช่วงสุดท้ายของโครงการโดยส่วนใหญ่ แต่ในไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป เริ่มมีการก่อสร้างงานใหม่เกิดขึ้น จะมีการรับรู้รายได้ดีกว่าไตรมาส 1/66 และมีแนวโน้มรายได้เติบโตตลอดทั้งปี

ปัจจุบัน TEKA ยังมองหาธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ หรือเป็นธุรกิจที่สามารถสนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อต่อยอดหรือขยายโอกาส และป้องกันความเสี่ยงหากภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวในอนาคต

นายวีระศักดิ์ วานิชวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TEKA ระบุว่า บริษัทมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจก่อสร้างมายาวนานร่วม 39 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญในงานอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ มีกลุ่มลูกค้าทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน เรามีความพร้อมในการขยายโอกาสการรับงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น อาคารคอนโดมิเนียม, โรงแรม, อาคารสำนักงาน, อาคารโรงพยาบาล และอาคารคลังสินค้า ซึ่งจากภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สดใสในปีนี้ ส่งผลดีต่อ TEKA ที่จะมีโอกาสรับงานใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น และได้เร่งรัดงานก่อสร้างต่างๆ ที่มีอยู่ในมือให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงาน ทั้งด้านรายได้ และอัตรากำไรให้ดีขึ้นจากปีก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มิ.ย. 66)

Tags: , , ,
Back to Top