นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมอีก 5 ชุด เนื่องจากเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมากและส่งผลกระทบพอสมควร ประกอบด้วย คณะทำงานเศรษฐกิจและรัฐบาลดิจิทัล, คณะทำงานต่อต้านคอรัปชั่น ต่อต้านส่วย, คณะทำงานสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์, คณะทำงานเพื่อความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และคณะทำงานปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ
“หวังว่าจะเป็นคำตอบให้กับสังคมในช่วงที่ยังไม่สามารถจัดตั้งตั้งรัฐบาลได้ และมี 4-5 ประเด็นรัฐบาลยังไม่มีคำตอบให้สังคม แล้วให้รอรัฐบาลใหม่เข้ามาแก้ไข เป็นการทำงานล่วงหน้า”
นายพิธา กล่าว
สัปดาห์ก่อนมีการตั้งคณะทำงาน 7 ชุด ประกอบด้วย คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล และพลังงาน, คณะทำงานเกี่ยวกับภัยแล้ง เอลนิลโญ, คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, คณะทำงานเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และ PM 2.5, คณะทำงานเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปากท้อง และ SME และ คณะทำงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหายาเสพติด
โดยวันนี้ได้ติดตามการทำงานของคณะทำงาน 7 ชุดที่ตั้งขึ้น เช่น คณะทำงานเกี่ยวกับค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซล และพลังงาน ได้วิเคราะห์ถึงข้อดีข้อเสียและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไม่มีการขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 ก.ค.66 ซึ่งคณะทำงานแต่ละชุดจะมีตัวแทนพรรคละ 1 คน พร้อมกำหนดบทบาทการทำงานและผลลัพธ์ที่ต้องการจากคณะทำงานแต่ละชุด และคณะทำงานจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 20 มิ.ย.66
นายพิธา กล่าวว่า จะนำผลประชุมของคณะทำงานไปเสนอเข้าที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคในวันพรุ่งนี้ (7 มิ.ย.) และในอีก 2-3 สัปดาห์คณะทำงานจะลงพื้นที่ไปประชุมสัญจรในต่างจังหวัดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง เช่น การลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเรื่องสุราก้าวหน้า, การลงพื้นที่ภาคเหนือเรื่องปัญหา PM2.5
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พรรคมีข้อเสนอแนะในการทำงาน 5 ประการ ประกอบด้วย
1.ความมั่นคงทางการคลัง การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพ ลดการขาดดุลการคลังต่อเนื่องจนสามารถเข้าสู่สมดุลทางการคลังในอีก 7 ปี
2.ระบบภาษีที่มีประสิทธิภาพ มีฐานภาษีสูงขึ้น การคำนวณภาษีต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและการระดมลงทุน
3.การออกแบบนโยบายที่ต้องคำนึงถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเท่าเทียมในการกระจายรายได้ควบคู่กันไป
4.ต้องวางแผนระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน การวางแผนระยะกลางและระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาเรื่องโครงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาพลังงาน สิ่งแวดล้อม PM2.5
5.การเปิดประเทศหารายได้ ดึงดูดการค้าการลงทุน
พล.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตัวแทนพรรคประชาชาติ (ปชช.) กล่าวว่า คณะทำงานพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาของชาติ ไม่ใช่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เช่น โรดแม็พในการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำความยากจน และปัญหาที่ดินทำกิน การถือครองอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะไม่ใช้วิธีการทวงคืนผืนป่าแบบรัฐบาลนี้ที่ส่งผลให้มีคนถูกจับกุม
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ตัวแทนจากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วน ส่วนเรื่องราคาพลังงานนั้นจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด และให้ประชาชนจ่ายค่าพลังงานอย่างเป็นธรรม สำหรับความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่ใช่การให้ความสำคัญเกี่ยวกับรัฐสวัสดิการเท่านั้น
นายวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนจากพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวว่า พรรคเสนอเรื่องการปฏิรูปที่ดิน เนื่องจากเห็นว่ามีปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เพราะมีประชากรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 66)
Tags: การเมือง, ความเหลื่อมล้ำ, ดิจิทัล, ที่ดิน, บุคลากรทางการแพทย์, พรรคก้าวไกล, พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ส่วย