เงินบาทเปิด 34.77 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค จับตาตัวเลขเงินเฟ้อไทย

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.77 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากปิดตลาดเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 34.53 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าหลังได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด แม้เมื่อวานนี้ตัวเลขภาคบริการของสหรัฐจะออกมาแย่แต่เป็นช่วงวันหยุดของไทย

โดยวันนี้มีปัจจัยในประเทศเรื่องเงินเฟ้อเดือน พ.ค.66 ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ทำให้เกิดความสงสัยเรื่องการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)

“บาทปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ซึ่งเป็นการย่อยข่าวที่ออกมาในช่วงวันหยุดยาว” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.60 – 34.90 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.87509% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 2.03935%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 139.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 138.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0713 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0767 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 34.594 บาท/ดอลลาร์
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.66 รมว.พาณิชย์
    ระบุว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ โดยมีแนวโน้มชะลอตัวลง และคาดว่าเดือน พ.ค.66 เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ทำแอ๊กชั่นแพลนฟื้นส่งออกระยะ 3 ปี เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่-บี้รัฐเร่งทำแผนฉุกเฉินรับมือภัยแล้งปีหน้า ป้องกันปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบสินค้าเกษตรที่ใช้ผลิตสินค้าอาหารเพื่อส่งออก อ้อนเร่งเติมสภาพคล่องเอสเอ็มอี
  • ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า ปีนี้สถาบันฯ ได้คาดการณ์ปริมาณการผลิตรถยนต์รวมไว้ที่ 1.95 ล้านคัน แบ่งเป็นผลิตเพื่อขายในประเทศ 0.90 ล้านคัน ส่งออก 1.05 ล้านคัน ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ขึ้นอยู่ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในโดยปัจจัยภายนอก ได้แก่ ตลาดส่งออกหลักทั้งอาเซียนและตะวันออกกลาง ยังคงเติบโต 4% และ 6% ตามลำดับ เพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโค
    วิด-19 ส่วนตลาดออสเตรเลียคาดว่าจะทรงตัว เพราะผลกระทบหนี้ครัวเรือนที่สูง
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (2 มิ.ย.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 29 แล้ว
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (5 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.จากจากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย., ดุลการค้าเดือนเม.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
  • นักลงทุนจับตาประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 22 มิ.ย. นี้ โดยการแถลงดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 66)

Tags: ,
Back to Top