นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของคริปโทฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 50% และเชื่อว่ายังมีแนวโน้มที่สามารถเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนมิถุนายน ได้แก่ กลุ่ม Ethereum, Liquid Staking และ ZK (Zero Knowledge) Roll Up
เหตุผลที่จะผลักดันให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้น คือ
1) Bitcoin ยังคงเคลื่อนที่ในกรอบแคบหนุนการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลตัวอื่น อ้างอิงจาก Bitcoin Dominance (การเทียบมูลค่าตลาดของ $BTC ต่อมูลค่าตลาดของคริปโทฯ ทั้งหมด) แสดงให้เห็นว่ามีนักลงทุนถือครอง BTC สัดส่วนเท่าไรเมื่อเทียบกับทั้งตลาด ซึ่งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาตัวเลข Bitcoin Dominance ยังอยู่ในจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี และยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 49% ได้ สามารถพิจารณาได้ว่า หากมีการปรับตัวลงเหมือนช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ในเดือนมิถุนายนนี้ อาจจะเป็นโอกาสที่ทำให้เม็ดเงินไหลจาก BTC เข้าเหรียญคริปโทฯ อื่น ๆ (Altcoins) ได้ โดยให้กรอบราคาของ BTC แนวรับอยู่ที่ 24,000-25,000 ดอลลาร์ และมองแนวต้านที่ 28,400 ดอลลาร์
2) ยอด Staking All Time High ของ ETH หนุนเทรนด์ Liquid Staking หลังจาก Ethereum’s Shapella Upgrade ที่ทำให้นักลงทุนสามารถถอน ETH ออกจากระบบได้แล้ว โดยหลังจากการอัพเกรดนี้ ยอด Staked ของ ETH ลดลงในช่วงแรกและมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนทำจุดสูงสุด อีกทั้งยังทำให้จำนวน ETH บน Centralized Exchange ลดต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งสามารถตีความได้ว่า แนวโน้มในการเติบโตของกลุ่ม Liquid Staking เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากเปรียบเทียบ Staked Ratio ของแต่ละ Blockchain จะพบว่า ETH Chain นั้นมีจำนวน ETH Staked เพียง 15% เท่านั้น แต่ค่าเฉลี่ย Staked Ratio ของทุก Blockchain สูงถึง 45% แสดงให้เห็นถึงโอกาสเติบโตของกลุ่ม Liquid Staking ได้เป็นอย่างดี
ในปัจจุบัน Lido Finance ถือครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 34% และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากเจาะลึกในเดือนพฤษภาคมจะพบว่า แนวโน้มยอด Staked ของ ETH บน Lido Finance และ Rocket Pool มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่บน Coinbase กลับลดลง ในระยะกลาง แนวโน้มกลุ่ม Liquid Staking ยังคงแข็งแรง แต่ก็ต้องจับตาดูว่าจะมีประเด็นอื่นเกิดขึ้นบน Lido Finance หรือไม่ หาก ETH ไหลออกจาก Lido Finance ไปยังโปรโตคอลอื่น เราอาจจะมองได้ในเชิงบวกว่า การกระจายตัวของ Node นั้นอาจจะทำให้ Sector Liquid Staking นั้น สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้กรอบราคาของ ETH แนวรับอยู่ที่ 1,600-1,700 ดอลลาร์ และมองแนวต้านแรกที่ 1,915 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไปที่ 2,000 ดอลลาร์
3) Total Value Lock ของกลุ่ม ZK (Zero Knowledge) Roll Up เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังการเปิด Polygon zkEVM Beta Mainnet ในวันที่ 24 มีนาคม แนวโน้มของ Blockchain กลุ่ม ZK-Roll Up เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่ Total Value Lock มีการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของกลุ่ม ZK-Roll Up ที่กำลังพัฒนาอยู่ และมีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเทคโนโลยี Optimistic Roll-Up ในอนาคต
สรุปภาพรวมเดือนมิถุนายนและแนวโน้มราคาของ BTC
แนวโน้มการลงทุนในเดือนมิถุนายน ภาพรวมของตลาดคริปโทฯ กลุ่ม Ethereum, Liquid Staking และ ZK- Roll Up มีโอกาสเติบโตสูงจากการเพิ่มขึ้นของ Staked ETH และการเปิดตัวของ Polygon zkEVM เพราะฉะนั้นแนวโน้มราคาตลาดในเดือนนี้ Altcoins จะมีปรับตัวขึ้นเด่นกว่า Bitcoin อ้างอิงจากแนวโน้ม Bitcoin Dominance ที่อยู่จุดสูงสุดในรอบ 1 ปี ณ ขณะนี้
นายมานะ คานิโยว หัวหน้าฝ่ายบริหารงานขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนควรทำการศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ที่มีโอกาสเติบโตสูงก่อนทำการลงทุน และยังคงมองการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) เป็นวิธีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพในช่วงสภาวะตลาดผันผวน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มิ.ย. 66)
Tags: bitcoin, Cryptocurrency, Merkle Capital, คริปโทเคอร์เรนซี, วรเมธ จันทร์เสน