สถานีโทรทัศน์อัล อัคห์บาริยา ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย รายงานเมื่อวันจันที์ (29 พ.ค.) ว่า ซาอุดีอาระเบียขอให้เจ้าหน้าที่ทางการทูตของตนในเลบานอนอาศัยอยู่แต่ในที่พัก หลังจากเกิดเหตุลักพาตัวชายชาวซาอุดีอาระเบียที่กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อวันอาทิตย์ (28 พ.ค.)
รายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวทำงานให้กับสายการบินซาอุดิอาระเบียแอร์ไลน์ (Saudi Arabian Airlines) หรือ ซาอุเดีย (Saudia) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ถูกลักพาตัวในย่านการค้าของกรุงเบรุต
นายบัสซัม เมาลาวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเลบานอน กล่านผ่านทวิตเตอร์ว่า ทางกองกำลังความมั่นคงของเลบานอนกำลังติดตามเรื่องดังกล่าวและได้แจ้งให้สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเบรุตทราบแล้ว
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนแจ้งสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “จนถึงตอนนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการลักพาตัวหรือการหายตัวไปของบุคคลดังกล่าว” และเสริมว่ากำลังตรวจสอบรายงานเกี่ยวกับกาเรียกค่าไถ่ โดยทางสถานีโทรทัศน์อัล อัคห์บาริยาเปิดเผยว่า ผู้ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นายเมาลาวีกล่าวว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเลบานอนกับพี่น้องประเทศต่าง ๆ ดังนั้นผู้กระทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง”
ความสัมพันธ์ของซาอุดีอาระเบียและเลบานอนย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่อิหร่านหนุนหลังนั้น มีอำนาจเหนือสถาบันในเลบานอน
ทั้งนี้ เลบานอนมีอาชญากรรมเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบเศรษฐกิจของประเทศล้มเหลว เนื่องจากการทุจริตคอร์รัปชั่นและการบริหารผิดพลาดของรัฐบาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 พ.ค. 66)
Tags: ซาอุดีอาระเบีย, นักการทูต, ลักพาตัว, เบรุต, เลบานอน