GFC เล็งขายหุ้น IPO 60 ล้านหุ้นใน Q3/66 มั่นใจตลาด IVF มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง

นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ (GFC) กล่าวถึงภาพรวมตลาดบริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธี IVF ของไทยเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 6% ต่อปี ในขณะที่บริษัทมีรายได้อัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 6% จากปัญหาการมีบุตรยาก ทำให้จำนวนประชากรลดลงเป็นปัญหาระดับประเทศ

นอกจากนี้ภาครัฐยังผลักดันประเทศไทยเป็น Medical Hub และอัตราค่ารักษาพยาบาลถูกกว่าประเทศคู่แข่งเฉลี่ย 178% รวมทั้งปัจจัยสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งประเทศจีนมีนโยบายลูกสามคน และการพิจารณาแก้ไขกฎหมายอุ้มบุญในประเทศไทย ส่งผลต่อการขยายตัวของตลาดท่องเที่ยวสำหรับผู้มีบุตรยากในประเทศไทย โดยบริษัทคาดการณ์ปี 70 เติบโตเฉลี่ย 14.60% ต่อปี

บริษัทได้เก็บรวบรวมสถิติ ผู้ที่ต้องการเข้ารับบริการมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่จะต้องขยายสาขาการให้บริการ โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น เริ่มขายในไตรมาส 3/66 มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทจะเป็นหนึ่งในผู้นำให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีบุตรยาก รายแรกในตลากหลักทรัพย์ฯ

โดยแผนที่จะนำเงินจากการระดมทุนดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ขยายคลินิก GFC สาขาสุวรรณภูมิ พระราม 9 โดยมีแผนเปิดดำเนินการในไตรมาส 4/66 เพื่อรองรับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น มีห้องตรวจทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็นห้องตรวจคนไข้ในประเทศ 6 ห้องและคนไข้ต่างประเทศอีก 6 ห้อง ใช้งบลงทุนประมาณ 450.87 ล้านบาท

อีกทั้งแผนขยายสาขาที่อุบลราชธานี จะเปิดดำเนินในไตรมาส 1/67 เป็นการร่วมทุนกับแพทย์ในพื้นที่ ใช้งบลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท และบริษัทฯยังมีแผนนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อหาโอกาสธุรกิจใหม่ๆในอนาคต และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ

อย่างไรก็ตามบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเติบโตเฉลี่ยปีละ 13.43% ในปี 65 มีรายได้ 275.91 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างจุดสูงสุดใหม่ทุกปี และธุรกิจการรักษาภาวะมีบุตรยากมีอัตราการใช้บริการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากสาขาสุวรรณภูมิ พระราม 9 แล้วเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น

GFC เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการทางการแพทย์ สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ของประเทศไทย ตั้งแต่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา ตลอดจนการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดยทีมแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ปัจจุบันบริษัทฯ มีบริษัทย่อย จำนวน 2 บริษัท 1). บริษัท จีโนโซมิกส์ จำกัด (GSM) ดำเนินธุรกิจการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน (Next generation sequencing: NGS ) และ 2). บริษัท จีเอฟซี เฟอร์ทิลีตี กรุ๊ป จำกัด (GFCFG) เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (holding company) จัดตั้งขึ้นเพื่อลงทุนในกิจการอื่นที่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจอื่นๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์ หรือสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ

ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1). การให้บริการตรวจเบื้องต้นก่อนให้คำแนะนำหรือรักษา 2). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี IUI (Intrauterine insemination) 3). การให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) 4). การให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อน (Next generation sequencing: NGS) และ 5) การให้บริการแช่แข็งไข่และการฝากไข่ สำหรับลูกค้าของกลุ่มบริษัทฯ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าผู้ที่วางแผนการมีบุตรในอนาคต , กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยที่สนใจอยากมีบุตร , กลุ่มลูกค้าคู่สมรสคนไทยกับชาวต่างชาติที่สนใจอยากมีบุตร และกลุ่มลูกค้าคู่สมรสชาวต่างชาติ ที่สนใจอยากมีบุตร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top