หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานในวันนี้ (24 พ.ค.) ว่า นายเจนเซ่น หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ออกโรงเตือนว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐกำลังเสี่ยงที่จะเสียหายอย่างมหาศาล จากความขัดแย้งเรื่องชิประหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
นายหวงกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สว่า การที่รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐออกมาตรการควบคุมการส่งออก เพื่อชะลอการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ได้ทำให้อินวิเดียตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และไม่สามารถขายชิปขั้นสูงให้กับจีน ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท
นายหวงกล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันนั้น บริษัทต่าง ๆ ในจีนก็เริ่มผลิตชิปเป็นของตัวเอง เพื่อแข่งขันกับอินวิเดีย โดยอินวิเดียเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดเกม กราฟฟิก และปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI)
“หากจีนไม่สามารถซื้อชิปจากสหรัฐได้ พวกเขาก็จะสร้างขึ้นมาเอง” นายหวงกล่าว พร้อมระบุเสริมว่า “ด้วยเหตุนี้ สหรัฐจึงต้องระวังให้ดี เพราะจีนเป็นตลาดที่สำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี”
รายงานระบุว่า ความพยายามของสหรัฐในการป้องกันไม่ให้จีนซื้อหรือพัฒนาชิปขั้นสูง ได้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญที่สุดในสงครามเย็นครั้งใหม่ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ
ทั้งนี้ ความเห็นของนายหวงมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน ก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) จะประกาศห้ามซื้อผลิตภัณฑ์ของไมครอน (Micron Technology) บริษัทผู้ผลิตชิปหน่วยความจำของสหรัฐ ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ครั้งใหญ่ครั้งแรกต่อการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 พ.ค. 66)
Tags: Nvidia, จีน, ชิป, ชิปเซมิคอนดักเตอร์, ซีอีโอ, สงคราม, สหรัฐ, อุตสาหกรรม, เทคโนโลยี