นายเอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) เปิดเผยผลการดำเนินงานหลังรวมกิจการกับบมจ.เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ในบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปริมาณงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการรวมงบการเงินเข้ามาเต็มไตรมาส
หนึ่งในธุรกิจที่มีรายได้โดดเด่นในไตรมาส 1/66 คือธุรกิจกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีรายได้ 224.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129.7 ล้านบาท หรือ 136.8% YoY สาเหตุจากการเพิ่มปริมาณการผลิตรถยนต์ รวมถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า ได้ส่งผลให้ธุรกิจมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าจากประเทศจีน ในอนาคตหากมีการเปิดโรงงานผลิตในประเทศไทย ยิ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทตั้งเป้าว่าภายในปี 2570 มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ มาร์เก็ตแคป แตะ 1 แสนล้านบาท โดยมีแผนที่จะขยายงานกลุ่มธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้มีการให้บริการอยู่ 9 ประเทศรวมทั้งจีนตอนใต้ โดยบริษัทมีแผนที่จะเป็นพันธมิตรกับท้องถิ่นที่มีความแข็งแกร่งในประเทศนั้น ๆ เพื่อที่จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งไตรมาส 1/66 รายได้จากต่างประเทศมีจำนวน 495.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 451.8 ล้านบาท หรือ 1,031.5% YoY หลังจากรวมธุรกิจ
บริษัทประเมินแนวโน้มรายได้ยังเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ภายใน 5 ปี จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 12% ในขณะที่ดีล M&A คาดสามารถปิดได้ 2 รายในปีนี้ โดยตั้งงบการลงทุนไว้ที่ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาพันมิตรหลายราย และต้องเป็นดีลที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ทันที
ไตรมาส 1/66 รายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4,942.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250% YoY และมีกำไรสุทธิ 231.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% YoY
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 66)
Tags: SJWD, หุ้นไทย, เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน, เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์