ผลสำรวจโดยบีดีโอ (BDO) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ระดับโลกบ่งชี้ว่า บริษัทขนาดกลางเกือบครึ่งหนึ่งในอังกฤษมีแผนชะลอการลงทุน หลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเมื่อเดือนที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่าการลงทุนที่ลดลงเป็นสาเหตุที่ทำให้การผลิตและมาตรฐานค่าครองชีพของอังกฤษได้รับผลกระทบในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และภาคธุรกิจต่างก็ตำหนิว่าอัตราภาษีที่สูงขึ้นได้ลดแรงจูงใจในการลงทุน
ทั้งนี้ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของอังกฤษเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25% ในเดือนเม.ย. จากระดับ 19% ในปีที่แล้ว ภายใต้การบังคับใช้มาตรการใหม่ที่ประกาศออกมาในเดือนมี.ค. 2564
ผลสำรวจของ BDO ระบุว่า 46% ของบริษัทที่ได้รับการสำรวจซึ่งมีรายได้ประมาณ 10-300 ล้านปอนด์ (12-379 ล้านดอลลาร์) ระบุว่า การปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลจะทำให้บริษัทชะลอการลงทุน ในขณะที่ 39% กล่าวว่า การปรับขึ้นภาษีจะทำให้บริษัทชะลอการจ้างงานหรือนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงาน
นายพอล ฟอลเวย์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ BDO ระบุว่า “การปรับขึ้นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลล่าสุดจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อแผนการลงทุนของภาคธุรกิจในอังกฤษ แม้มีรายงานว่าผลกระทบดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในระยะสั้นก็ตาม”
แม้ว่าภาระด้านภาษีโดยรวมของอังกฤษยังคงต่ำกว่าเกือบทุกประเทศในยุโรป แต่การที่อัตราภาษีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นได้สร้างภาระให้กับอังกฤษมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาประชากรผู้สูงอายุและเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลง และมีความเป็นไปได้ว่าภาคธุรกิจของอังกฤษอาจจะแบกภาระด้านภาษีในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดย BDO โดยเก็บข้อมูลจากบริษัท 512 แห่งของอังกฤษในระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-16 เม.ย. ที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 66)
Tags: ภาษีเงินได้นิติบุคคล, อังกฤษ