MENA ขายบิ๊กล็อต 11.58% ดึงกองทุนสิงคโปร์ถือหุ้นสะท้อนความเชื่อมั่นศักยภาพ-พร้อมลงทุนยาว

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการทำรายการขายหุ้น MENA ผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (Big Lot) ซึ่งเป็นการทำรายการขายหุ้นของนายณัฐพล ขจรวุฒิเดชจำนวน 85 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 11.58 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคาหุ้นละ 2.45 บาท คิดเป็นมูลค่า 208.25 ล้านบาท โดยทำรายการขายให้กับ Capital Asia Investments ซึ่งเป็นกองทุนจากประเทศสิงคโปร์

การทำบิ๊กล็อตในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้ปัจจัยพื้นฐานบริษัทเปลี่ยนแปลง ยังคงดำเนินธุรกิจไปตามปกติ และไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการจัดการและการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่กลับเป็นผลดีกับ MENA โดยตรง เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่กองทุนขนาดใหญ่ว่า MENA เป็นบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปได้ในอนาคต สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้เป็นอย่างดี และมีแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนเพื่อเดินหน้าสู่การเติบโตเป็น Growth Stock ในทุกมิติ รวมทั้งจะทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นแข็งแรงและมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น

“กองทุนมองเห็นถึงช่องทางการเติบโตของบริษัทฯในฐานะเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถ Mixer และรถ Trailer รายใหญ่ของประเทศ เชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจและประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ปีนี้ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่อุตสาหกรรมก่อสร้างมีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกซ์เซอร์มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัว ทั้งจากโครงการเมกะโปรเจคต่างๆ รวมถึงยังได้รับปัจจัยบวกจากการร่วมมือบริษัท ตะวันแดง โลจีสติกส์ จำกัด (TWD) ตั้งบริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM) เพื่อเปิดเส้นทางให้บริการงานขนส่งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าในเครือทั่วประเทศ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดการซื้อขายบิ๊กล็อตในครั้งนี้” นางสุวรรณา กล่าว

ที่ผ่านมา MENA ประสบความสำเร็จในการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และได้ขยายฟลีทรถขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเฉพาะทาง และสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งในปี 66 จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของ MENA ที่จะได้เห็นการเติบโตของรายได้อย่างมีศักยภาพผ่านการจับมือพันธมิตรในการขยายธุรกิจ ทำให้มั่นใจรายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้และจะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 66)

Tags: , ,
Back to Top