กูรูคาดท่องเที่ยวช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยเดินหน้าระหว่างรอจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยยังคงสดใส แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการภายหลังการเลือกตั้งสิ้นสุดลง โดยคาดว่าไทยจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคนในปีนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากถึง 6.5 ล้านคน เมื่อเทียบกับจำนวน 498,000 คนในไตรมาส 1 ปีที่แล้ว ซึ่งการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยกระตุ้นกิจกรรมทั้งในภาคธุรกิจและภาคผู้บริโภคของไทยเป็นวงกว้าง และในขณะที่ไทยมีโอกาสบรรลุเป้าหมายของรัฐบาลที่จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3 เท่าในปีนี้จากระดับ 10 ล้านคนในปี 2565 นั้น นักวิเคราะห์มองว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะผงาดขึ้นเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่การเมืองของไทยยังไม่นิ่ง

ดร.ฐิติมา ชูเชิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า “การท่องเที่ยวจะกลายเป็นเสาหลักที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ส่วนในการคาดการณ์สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด (worst-case scenario) ของเรานั้น การใช้จ่ายของรัฐบาล การอุปโภคบริโภค และการลงทุน อาจจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล แต่เราคาดว่าการท่องเที่ยวจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง”

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การท่องเที่ยวซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทยก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดนั้น กำลังกลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนกำลังรอดูสถานการณ์หลังจากการเลือกตั้งทั่วประเทศเสร็จสิ้นลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. ซึ่งพรรคก้าวไกลภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี คาดว่าวุฒิสมาชิกจำนวน 250 คนที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการกำหนดว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย โดยหากวุฒิสมาชิกไม่สนับสนุนนายพิธาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็อาจจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าออกไปอีกหลายเดือน และอาจจะทำให้การนำเสนองบประมาณในปีปัจจุบันซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนต.ค.นี้ต้องล่าช้าออกไป และส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของรัฐบาล

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงนายคริสตัล ตัน จากบริษัท Australia & New Zealand Banking Group กล่าวว่า หากสถานการณ์การเมืองของไทยมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 40 ล้านคนเหมือนกับในปี 2562 โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่มีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยก่อนช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด

“หากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองบานปลายจนกลายเป็นการประท้วงบนท้องถนน การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะโดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะมีความอ่อนไหวต่อความไร้เสถียรภาพทางการเมือง โดยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวของนักท่องเที่ยวลดลงในช่วงเวลาที่เกิดปัญหาทางการเมือง” นายตันกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top