หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์ คลายกังวลการเมืองในประเทศ-คาดหวังสหรัฐเจรจาเพดานหนี้จบ

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ลุ้นรีบาวด์ หลังปรับฐานลงมาใกล้ 1,500 จุด โดยติดตามการแถลงของพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้ว่าจะมีความชัดเจนออกมาเป็นอย่างไร ทำให้ตลาดคลายกังวลปัจจัยทางการเมือง รวมถึงรับ Sentiment เชิงบวกจากสหรัฐ หลังประธานาธิบดีสหรัฐออกมายืนยันเดินหน้าเจรจาขยายพดานหนี้ และสหรัฐจะไม่ผิดชำระหนี้ ส่งผล Sentiment บวกตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืน และมาสู่ตลาดหุนเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,530-1,540 จุด แนวรับ 1,500-1,510

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าดัชนีลุ้นโอกาสรีบาวด์ หลังดัชนีปรับฐานเข้าใกล้ระดับ 1,500 จุด ซึ่งยังคงต้องติดตามการแถลงของพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมรัฐบาลในเช้าวันนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หรือมีการทำ MOU ออกมาอย่างไรบ้างในการร่วมรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ตลาดคลายกังวลเรื่องปัจจัยการเมืองในประเทศ

ขณะที่ปัจจัยภายนอกเกี่ยวกับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ จากการที่ยังไม่มีความชัดเจนในการพิจารณาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ แต่ประธานนาธิบดีสหรัฐได้ออกมาให้ความมั่นใจในการเดินหน้าเจรจาอย่างชัดเจน และสหรัฐจะไม่ผิดชำระหนี้ ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนตอบรับเชิงบวก และส่งผลมาถึง Sentiment ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดมาปรับตัวขึ้น

พร้อมให้แนวต้าน 1,530-1,540 จุด แนวรับ 1,500-1,510

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,420.77 จุด พุ่งขึ้น 408.63 จุด หรือ +1.24%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,158.77 จุด เพิ่มขึ้น 48.87 จุด หรือ +1.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,500.57 จุด เพิ่มขึ้น 157.51 จุด หรือ +1.28%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 30,432.54 จุด เพิ่มขึ้น 338.95 จุด หรือ +1.13%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,702.73 จุด เพิ่มขึ้น 142.16 จุด หรือ +0.73% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,288.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.18 จุด หรือ +0.13%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 พ.ค.66) 1,522.74 จุด ลดลง 17.10 จุด (-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 57,401.27 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,490.83 ล้านบาท (17 พ.ค.66)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (17 พ.ค.66) พุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 พ.ค.66) อยู่ที่ 4.51 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.26 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค จับตาการเมือง-เม็ดเงินไหลออก
  • “พิธา” นำทีมถก 6 พรรครวม 313 เสียงฟอร์มทีมตั้งรัฐบาล “ก้าวไกล” จองเก้าอี้ “นายกฯ-รมว.กลาโหม” พ่วง มท.1 ดันกระจายอำนาจ-ปราบ ทุนสีเทา-เลือกตั้งผู้ว่าฯ ส่วน “เพื่อไทย” ขอกระทรวงเกรดเอล็อก “พลังงาน” ด้าน “ชัยธวัช” รับแนวคิดถกส.ว. ร่วมโหวตนายกฯ ขณะที่ “ทักษิณ” ย้ำกลับไทยกำหนดเดิม
  • จับตา! สภาสูงคุยนอกรอบเลือกนายกฯ 23 พ.ค.นี้ “มณเฑียร” ไล่พรรคขั้วตั้งรัฐบาลไปรวมเสียงให้ได้ 376 ดีกว่า อย่ามาเสี่ยงหวังเสียง ส.ว. เพราะน่าหวาดเสียว! ย้อนตอนแก้ กม.ตัดอำนาจ ส.ว. เห็นสามัคคีกันดี แต่เปิดทางก้าวไกลส่งตัวแทนมาคุยก่อนโหวตเลือก “พิธา” สะพัดวุฒิสภาขอความชัดเจนเรื่องแก้ ม.112 “สังศิต” ชัดเจนไม่เอารัฐบาลที่ให้ประเทศมหา อำนาจเข้ามาตั้งฐานทัพในไทย
  • ทำเนียบขาว และสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสกำลังเผชิญหน้ากันเรื่อง เพดานหนี้สหรัฐว่า รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากน้อยแค่ไหน รัฐมนตรีคลังเตือน หากตกลงกันไม่ได้ สหรัฐต้องเผชิญกับ “พายุทางการเงินและเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
  • กนอ.-บีโอไอ จัดทัวร์บริษัทบิ๊กเนมทั้ง ปตท.-ซีพี บุกโรดโชว์แดนกิมจิ ชูศักยภาพไทย พร้อมเป็นฐานการผลิต เจาะกลุ่ม “อีวี-เซมิคอนดักเตอร์-ชิป” สร้างคลื่นลงทุนลูกที่สามในไทย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KTB (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 24.75 บาท มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ KTB เมื่อวานนี้ เนื่องจากผู้บริหารคาดว่า NIM จะสูงขึ้นในไตรมาส 2/66-3/66 ด้วยต้นทุนที่ควบคุมได้ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566-2568 ขึ้น 10.6-11.2% เนื่องจาก CIR ที่ลดลงและ NIM ที่สูงขึ้น NIM จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าต้นทุนเครดิต เราไม่กังวลมากนักกับดอกเบี้ยค้างรับที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจาก 7 ระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ของรัฐบาล ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 24.75 บาท จาก 20.40 บาท)
  • AH (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท งวดไตรมาส 1/66 รายงานกำไรสุทธิ 562 ล้านบาท +37%QoQ, +40%YoY หนุนจากรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท +4%QoQ, +21%YoY เติบโตทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการ รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานหลักในไตรมาส 2/66 และทั้งปี 66 มีปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อใหม่ ยอดขายจากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์สูงขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน เราประเมินยอดขายของบริษัทอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท เติบโต +11%YoY ดีกว่าอุตสาหกรรม กำไรปกติปี 66 อยู่ที่ 1.94 พันล้านบาท +14%YoY กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.87 พันล้านบาท +2%YoY Valuation ไม่แพงมี Forward PER’66 ต่ำเพียง 6.3x ระยะยาวคาดว่าได้รับประโยชน์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย
  • MAKRO (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 44 บาท ได้ Sentiment บวกได้เข้าคำนวณในดัชนี MSCI มีผลบังคับใช้ 31 พ.ค.นี้ ขณะที่ผลประกอบการทยอยฟื้นตัวและจะเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นกำลังซื้อของพรรคการเมือง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66)

Tags: , , ,
Back to Top