นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ. แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 8,505 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 1,582 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นขึ้นถึง 423%
ผลงานมาจากรายได้จากการขายโครงการที่โดดเด่นในทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย นำด้วยรายได้จากการขายคอนโดมิเนียม ที่ในไตรมาสนี้เติบโตสูงสุดถึง 217% หรือโกยรายได้ 2,717 ล้านบาท รายได้หลักมาจากโครงการเอ็กซ์ที พญาไทที่เพิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.65 ตามด้วยโครงการเอ็กซ์ที ห้วยขวาง, โอกะ เฮ้าส์ และเอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา นอกจากนี้ ยังมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ คือ เดอะ มูฟ บางนา
ในไตรมาสนี้ ยังมีรายได้จากการขายโครงการแนวราบ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและมิกซ์ โปรดักส์ โดยแชมป์รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, บุราสิริ วัชรพล, เศรษฐสิริ จรัญ-ปิ่นเกล้า2, เศรษฐสิริ พระราม 5 และ สราญสิริ รังสิต ส่วนรายได้จากทาวน์โฮม เติบโตขึ้นถึง 104% โดยเฉพาะความสำเร็จในลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ “เดมี สาธุ 49” พร้อมกันนี้ยังสร้างผลงานในโครงการแบบมิกซ์โปรดักส์ ที่รวมบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในโครงการเดียว ตอบรับแนวคิดการอยู่อาศัยแบบ Feel Just Right ความพอดีที่ลงตัวภายใต้แบรนด์ “อณาสิริ” ที่ประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ที่โดดเด่นต่อเนื่องในปีนี้เช่นเดียวกัน อาทิ อณาสิริ บางใหญ่, อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี และ อณาสิริ ติวานนท์ – ศรีสมาน เป็นต้น
นอกจากรายได้ที่โดดเด่นในทุกโปรดักส์แล้ว กำไรขั้นต้นจากการขายโครงการที่อยู่อาศัยยังคงสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ประกอบกับในไตรมาสนี้ SIRI บันทึกกำไรจากการขายกิจการโรงเรียนสาธิตพัฒนา และการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วม ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิ 1,582 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิสูงถึง 18.6% ของรายได้รวม ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจากอัตรากำไรสุทธิ 5.8% ของรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 65
ไฮไลท์ของไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพื่อตอกย้ำผู้นำตลาดลักซ์ชัวรีที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้ามาโดยตลอด SIRI เตรียมเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ พหล – วัชรพล” ที่สุดของบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ในปีนี้บนที่สุดทำเลศักยภาพแห่งใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตาของกลุ่มตลาดลักซ์ชัวรี่ เชื่อมต่อขยายจากถนนเลียบทางด่วน-รามอินทรา ในราคา 35-70 ล้านบาท ถ่ายทอดปรัชญาด้าน Brand Taste-Maker ลงรายละเอียดในทุกดีเทลของความเป็นฝรั่งเศส รวมถึงส่วนกลางที่มีพื้นที่มากถึง 6 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 5,100 ล้านบาท เตรียมเปิดตัววันที่ 24- 25 มิ.ย.นี้
บริษัทยังเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อรองรับการเติบโต โดยจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป สำหรับชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.00-4.10% ต่อปี และ ชุดที่ 2 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.45-4.55% ต่อปี ผ่าน 10 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) หุ้นกู้ทั้ง 2 ชุดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง
โดยหุ้นกู้และบริษัทได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่ (Stable)” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1-2 และ 6 มิ.ย.66 นี้ ด้วยเงินจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 1,000 บาท
“เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของแสนสิริ ที่เป็นแบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น แสนสิริยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องทั่วถึงและเท่าเทียมกัน โดยการระดมทุนเพื่อรุกเดินหน้าธุรกิจในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนธุรกิจที่คาดว่าจะทำให้แสนสิริสร้างผลประกอบการเป็น New High ได้ต่อเนื่องจากปีก่อน”
นายอุทัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)
Tags: SIRI, หุ้นไทย, อุทัย อุทัยแสงสุข, แสนสิริ