นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) (JSP) เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท JSP ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 36.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 43.8% เนื่องจากธุรกิจด้านการขายสินค้าประเภท Own Brand (แบรนด์สุภาพโอสถ และอื่นๆ) ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากขึ้น หลังจาก JSP ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการทำการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานและกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งเป็นการเติบโตตามโครงสร้างประชากรที่เริ่มสู่สังคมผู้สูงอายุ
ขณะที่ บริษัทยังรายงานอัตรากำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 1/2566 เพิ่มขึ้น 0.7% ส่งผลมีกำไรสุทธิ 1.85 ล้านบาท หรือ 0.004 บาทต่อหุ้น เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 11.5 ล้านบาท หรือ ขาดทุน 0.03 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 116.08%
“JSP เริ่มมีผลการดำเนินงานที่เป็นบวก สะท้อนถึงการดำเนินงานที่เป็นไปตามแผน หลังจากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วนำเงินที่ได้จากการระดมทุนดังกล่าวไปลงทุนตามแผน และในปีนี้ผลจากการลงทุนดังกล่าวเริ่มสะท้อนออกมาในรูปของผลประกอบการโดยเริ่มจากไตรมาสแรกปีนี้”
ดร.สิทธิชัย กล่าว
ส่วนแผนการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปีนี้ JSP มีแผนที่จะแตกไลน์ธุรกิจไปสู่บริการอื่นๆในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการของ JSP เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566 มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในธุรกิจเป็นโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต(A-B Solution) ด้วยการเข้าซื้อหุ้น 52.8% ในบริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (GWM) คิดเป็นมูลค่า 43.9 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ JSP กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีอำนาจวางนโยบาย รวมถึงจะทำให้ JSP กลายเป็นผู้ให้บริการด้านผู้ผลิตและจำหน่ายในตลาดยาและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพครบวงจรมากขึ้น
“การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะเข้ามาเสริมให้ JSP แข็งแกร่งยิ่งขึ้น คาดว่ากระบวนการต่างๆจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 2/66 ซึ่งธุรกิจผลิตน้ำยาฟอกไตปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อระบบสาธารณสุขของไทยและทั่วโลก โดยล่าสุดปี 65 พบว่า 1 ใน 10 ของประชากรโลกไตทำงานผิดปกติ และในประเทศไทย 1 ใน 25 ของผู้ป่วยเบาหวานและความดันมีภาวะไตวายและจะเป็นผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการบำบัดทดแทนไตมีประมาณเกือบ 200,000 คน ซึ่งยังไม่รวมถึงผู้ป่วยที่ยังไม่แสดงอาการหรือที่ที่แสดงอาการไม่มากถึงขั้นที่ต้องการให้รับการบำบัดทดแทนไตอีกประมาณกว่า 1 ล้านคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทุกปี ดังนั้นการที่เราเข้าไปร่วมธุรกิจนี้ จึงเป็นการเพิ่มทางเลือกในการเข้าถึงน้ำยาล้างไตที่ผลิตโดยคนไทย และมีราคาต่ำกว่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ”
นายสิทธิชัย กล่าว
ทั้งนี้ GWM ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต รวมถึงนำเข้า – ส่งออกเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องฟอกไตเทียม, เข็มต่อสายฟอกเลือด และอุปกรณ์การแพทย์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเลือด โดยปัจจุบันมีความจำเป็นในการเข้าถึงเงินทุนเพื่อขยายกิจการรองรับการเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งทางบริษัทพิจารณาแล้วว่าภายใน 3 ปี จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากเงินลงทุนดังกล่าวได้ 3-4 เท่า
นอกจากนั้น JSP ยังจะได้ประโยชน์จาก บริษัท วารี เมดิคอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GWM ที่ให้บริการด้านการติดตั้งระบบน้ำประปา และจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องกรองน้ำและติดตั้งระบบน้ำบริสุทธิ์ให้กับศูนย์ฟอกไตของ GWM และลูกค้ารายอื่นๆ ดังนั้น JSP จึงมีแผนลุยธุรกิจที่เกี่ยวกับการบำบัดรักษาไตอย่างครบวงจร เช่น การเปิดศูนย์ฟอกไต การจัดจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ตอกย้ำเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำด้านด้านยาและสุขภาพครบวงจร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 66)
Tags: JSP, สิทธิชัย แดงประเสริฐ, หุ้นไทย, โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี