ยาเดียเผยมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ากวาด 4 รางวัลด้านดีไซน์ระดับสากล

ยาเดีย (Yadea) แบรนด์ผู้พัฒนาและผลิตรถสองล้อไฟฟ้าเผยมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ได้รับรางวัลด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ระดับนานาชาติ 4 รางวัล ได้แก่ รางวัล เรด ดอท อวอร์ด (Red Dot Award) สองรางวัล และรางวัลไอเอฟ ดีไซน์ อวอร์ด (iF DESIGN AWARD) สองรางวัล

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยาเดีย คีเนส (Yadea KEENESS) และ ยาเดีย เอส9 (Yadea S9) รวมถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยาเดีย สกู๊ตเตอร์ อีลิทไพรม์ (Yadea Scooter ElitePrime) ผลิตภัณฑ์รถสองล้อไฟฟ้าทั้งสามรุ่นมีจุดเด่นที่ดีไซน์ ประสบการณ์การใช้งาน และแนวคิดในการปกป้องสิ่งแวดล้อม

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยาเดีย คีเนส มาพร้อมมอเตอร์ขับกลาง 10 กิโลวัตต์ ทำความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. และเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4 วินาที ตัวแบตเตอรี่มีระบบนำไฟฟ้ากลับมาใช้อัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังไฟและยืดอายุของแบตเตอรี่ โดยการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 100 กม.

ทั้งนี้ เรด ดอท อวอร์ด เป็นรางวัลสัญชาติเยอรมันซึ่งยกย่องผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบอย่างโดดเด่นและสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่รางวัลไอเอฟ ดีไซน์ อวอร์ด ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ตัดสินผลงานการออกแบบที่ยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในรางวัลด้านการออกแบบที่สำคัญที่สุดในโลก

ส่วนผลิตภัณฑ์เด่นของปี 2566 คือ ยาเดีย สกู๊ตเตอร์ อีลิทไพรม์ เป็นสกู๊ตเตอร์อเนกประสงค์ประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และพับได้ สามารถพิชิตได้ทุกสภาพถนน มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูงสุด 1,500 วัตต์ สามารถไต่ทางลาดชัน 30% และมีโครงสร้างดูดซับแรงกระแทกหน้า-หลังที่ดีเยี่ยม

สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยาเดีย เอส9 มีแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ และขับได้ไกลกว่า 150 กม. แบบสบาย ๆ ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมคาร์บอนไฟเบอร์ 2.0 TTFAR ที่พัฒนาโดยยาเดียเป็นเจ้าแรก แบตเตอรี่นี้ใช้เซลล์แบบลามิเนตและเทคโนโลยี PACK ขนาดกะทัดรัด โดยมีความจุสูงกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมทั่วไปมากถึง 100% นอกจากนี้ กำลังมอเตอร์ยังสูงถึง 1,000 วัตต์ จึงเร่งความเร็วตอนออกตัวได้ดี

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของยาเดียประกอบด้วยรถสองล้อไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ได้แก่ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โมเพดไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ยาเดียนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้แก่ลูกค้ากว่า 70 ล้านคน ในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายผู้ค้าปลีกกว่า 40,000 รายทั่วโลก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 66)

Tags: , , , , ,
Back to Top